1.  โรคผื่นภูมิแพ้ ความคันกวนใจและพาให้ผิวเสียหายได้ง่าย

โรคภูมิแพ้ถือเป็นหนึ่งในโรคที่สามารถทำให้เกิดปัญหาขึ้นบนผิวหนังได้มากที่สุด โดยนอกเหนือจากลมพิษแล้ว ยังสามารถเป็นผื่นภูมิแพ้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดผื่นขนาดเล็กบน ผิวสร้างความรู้สึกคันและแสบผิว ทั้งยังลุกลามไปสู่บริเวณต่าง ๆ ที่มีผิวหนังได้มากอีกด้วย

2.  สาเหตุของการเกิดโรคผื่นภูมิแพ้ เกิดจากอะไร

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังถือเป็นหนึ่งในโรคของผิวที่เกิดจากสภาวะร่างกายมีปัญหาด้านภูมิคุ้มกัน เมื่อใดที่ภูมิคุ้มกันลดต่ำลงหรือบกพร่องจะทำให้ปัจจัยต่าง ๆ รอบตัวกลายเป็นสารก่อภูมิแพ้และแสดงออกผ่านทางผิวหนัง สามารถเป็นได้กับทุกเพศและทุกวัย โดยจะมีอาการชัดเจน คือ อาการขึ้นผื่นขนาดเล็กและมีความคัน ส่วนจะคันมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการแพ้ เมื่อรักษาแล้วจะไม่สามารถหายขาดได้ เพราะเมื่อหายไปจะกลับมาเป็นอีก การลดความรุนแรงของโรคจึงเป็นการดูแลรักษาสุขภาพ การรับประทานยาแก้แพ้ และการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อการแพ้ที่อยู่รอบตัว ด้วยการหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด

3.  อาการของโรคผื่นภูมิแพ้ อันตรายหรือไม่

โรคภูมิแพ้สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบด้วยกัน คือ

• ผื่นภูมิแพ้เฉียบพลัน คือ มีอาการคัน ขึ้นผื่น หรือบวมแดงอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่รู้ว่าเกิดจากปัจจัยใดและอาจจะมีเป็นตุ่มหนอง ตุ่มน้ำใสร่วมด้วย จะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันและรวดเร็ว ไม่แสดงอาการใด ๆ เตือนก่อน
• ผื่นภูมิแพ้แบบกึ่งเฉียบพลัน คือ มีตุ่มแดงขึ้นมาก่อนและจะเป็นผื่นบนผิวหนัง จากนั้นจะตามมาด้วยอาการคันแบบรุนแรง พร้อมลอกออกเป็นขุย และในผู้ป่วยบางรายอาจจะเป็นตุ่มน้ำร่วมด้วย แต่อาการทั้งหมดจะไม่รุนแรงเท่ากับแบบเฉียบพลัน
• ผื่นภูมิแพ้แบบเรื้อรัง คือ การแสดงออกอย่างชัดเจนที่เห็นผื่นขนาดเล็กขึ้น พร้อมทิ้งรอยผื่นสีน้ำตาลไว้หลังหายแล้ว โดยเป็นแล้วจะกลับมาเป็นอีกเรื่อย ๆ ทั้งยังทิ้งอาการคัน บวม ผิวลอกเป็นขุย ไว้บนผิวอีกด้วย

4.  วิธีการดูแลรักษา  โรคผื่นภูมิแพ้ รักษาได้ไหม

เมื่อใดที่เกิดปัญหาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สิ่งที่ควรทำคือการรับประทานยาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ แต่ควรใช้ในกรณีที่เกิดการลุกลามมากผิดปกติ ถ้ามีอาการคันเพิ่มมากขึ้นควรใช้ยาในกลุ่มต้านฮีสตามีนร่วมด้วย ถ้ามีอาการที่รุนแรงขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ ซึ่งถ้าผื่นภูมิแพ้ผิวหนังไม่ลดลงอาจต้องมีการฉายแสง ถ้าอาการหนักและอยู่ในวินิจฉัยของแพทย์แล้วว่าต้องรับประทานยาอาจจะได้รับยากดภูมิหรือยาปฏิชีวนะในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ไม่สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมหรือของใช้ร่วมกับผู้อื่น รวมไปถึงของในพื้นที่สาธารณะ เพราะอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ทุกเมื่อ สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้และไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้

ถ้าต้องการรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ให้ดีขึ้นและต้องการรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงอย่างชัดเจน ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง เพื่อการทดสอบอาการแพ้และนำมาสู่การดูแลรักษาตัวเองอย่างถูกต้อง สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงได้ตรงจุดและไม่ต้องเสี่ยงกลายเป็นผื่นภูมิแพ้ที่อาจทาให้ผิวเสียหายได้

5.  Dsecret clinic  คลินิกรับรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ โดยแพทย์เฉพาะทาง

Dsecret clinic เข้าใจดีสำหรับทุกคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง โรคผื่นภูมิแพ้ เรารู้และเข้าใจสาเหตุของทุกปัญหา กรณีที่อาการของโรครบกวนการนอนหลับพักผ่อนหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้รู้สึกกังวลและอับอาย พยายามรักษาด้วยตนเองแล้วไม่ดีขึ้น หรือมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษา เพียงคุณเข้ามาติดต่อสอบถาม หรือเข้ามาปรึกษาเราได้ฟรีที่ คลินิก Dsecret clinic เรามี

• แพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญมีหมอที่เก่งโรคผิวหนัง โดยเฉพาะ
• ไว้พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาคุณในทุกๆ เรื่อง
• เพราะเราใส่ใจในความรู้สึกและปัญหาของคุณ
• เราพร้อมให้บริการที่ยอดเยี่ยม
• มีทีมงานคอยบริการคุณทุกคนอย่างดี
• ใส่ใจคนไข้ทุกคนไม่ว่าปัญหาของคุณจะเล็กมากแค่ไหน
• แต่นั้นคือเรื่องสำคัญของเราเสมอ

ขอบคุณที่ไว้ใจให้เราได้คอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิด และเราจะตั้งใจในการบริการงานของเราให้ดีที่สุดและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณมาหาเราแล้วได้แต่รอยยิ้มและความสุขกลับไป

6. ประสบการณ์ มากกว่า 15 ปีของ พญ. มริญญา ผ่องผุดพันธ์

ประสบการณ์การทำงาน

• อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
• อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
• แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
• แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก ( Education )

• Hair Restoration Training, Korea (2015)
• Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
• Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
• Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
• Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
• Nail surgery training
• Laser expert training
• Hair expert training
• Boton university usa