แนะนำ  ศูนย์รักษาโรคผิวหนัง ให้แก่ชาวบางบอน ได้รู้จัก

การรักษาโรคผิวหนัง จำเป็นจะต้องรักษา โดยแพทย์เฉพาะทาง เท่านั้นเพราะถ้าหากคุณปล่อยไป โดยไม่เข้ารับการรักษา อาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นรุนแรงได้  ดังนั้นคุณจึงควรเลือกคลินิกรักษาโรคผิวหนังที่มีคุณภาพ เลือกใช้ วิธีรักษาที่ทันสมัยใส่ใจทุกขั้นตอน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลผิวหนังได้ถูกต้อง ซึ่งคลินิกของเราจะใช้เทคโนโลยีร่วมกับการรักษา เพื่อทำให้คุณสามารถรักษาปัญหาผิวหนัง และโรคผิวหนังชนิดต่างๆได้อย่างตรงจุด เพื่อไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง ช่วยลดปัญหาการติดเชื้อ ลดการอักเสบด้วยการเลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสูตรพิเศษที่มีเพียงที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น  คุณจึงสามารถเข้ามารักษาได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการติดเชื้อใด ๆ เพราะที่นี่มีการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เป็นเครื่องมือรุ่นใหม่ที่มีความทันสมัย มีการดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกต้อง

 

 

Dsecret clinic คลินิกรักษาโรคผิวหนัง

Dsecret clinic เข้าใจดีสำหรับทุกคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง โรคผิวหนัง  เรารู้และเข้าใจสาเหตุของทุกปัญหา กรณีที่อาการของโรครบกวนการนอนหลับพักผ่อนหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้รู้สึกกังวลและอับอาย พยายามรักษาด้วยตนเองแล้วไม่ดีขึ้น หรือมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษา เพียงคุณเข้ามาติดต่อสอบถาม หรือเข้ามาปรึกษาเราได้ฟรีที่ คลินิก Dsecret clinic เรามี

  • แพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังโดยเฉพาะ
  • ไว้พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาคุณในทุกๆ เรื่อง
  • เพราะเราใส่ใจในความรู้สึกและปัญหาของคุณ
  • เราพร้อมให้บริการที่ยอดเยี่ยม
  • มีทีมงานคอยบริการคุณทุกคนอย่างดี
  • ใส่ใจคนไข้ทุกคนไม่ว่าปัญหาของคุณจะเล็กมากแค่ไหน
  • แต่นั้นคือเรื่องสำคัญของเราเสมอ

Dsecret clinic คลินิกรักษาโรคผิวหนัง ดังต่อไปนี้

สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอคำปรึกษา ว่าคุณกำลังเจอปัญหาโรคผิวหนังแบบไหนอยู่ และขอขอบคุณที่ไว้ใจให้เราได้คอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิด และเราจะตั้งใจในการบริการงานของเราให้ดีที่สุดและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณมาหาเราแล้วได้แต่รอยยิ้มและความสุขกลับไป

 

ประสบการณ์ มากกว่า 15 ปีของ พญ. มริญญา ผ่องผุดพันธ์

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก ( Education )

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

โรคผิวหนัง คือ อะไร ทำไมต้องรู้จัก

โรคผิวหนังเป็นหนึ่งในโรครบกวนจิตใจของใครหลายคน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ, พันธุกรรม, การเกิดจากมลพิษและมลภาวะรอบด้าน รวมไปถึงการติดเชื้อต่าง ๆ จึงแสดงผลออกมาเป็นทั้งผื่นแพ้, ตุ่มคัน, วงด่างสีขาว หรืออาจจะขึ้นเป็นก้อนและปื้นสีแดงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่จะทำให้เห็นอย่างเด่นชัด นอกจากนี้อาการโรคผิวหนังที่ไม่แสดงชัดเจนก็มีด้วยเช่นกัน ดังนั้นการรักษาจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น แม้ว่าเรื่องของโรคผิวหนังจะเป็นเรื่องทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าดูแลรักษาไม่ดีเพียงพอ อาจทำให้เกิดการลุกลามและเกิดการติดเชื้อ ที่พาให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและสภาพของจิตใจได้มากเลยทีเดียว

 


1.สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง จนคุณต้องเป็นกังวล

การเกิดของโรคผิวหนังถูกพบว่ามีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย โดยจะแสดงอาการเพื่อบ่งบอกทั้งแบบชัดเจนและไม่ชัดเจน  สำหรับการบ่งบอกอย่างชัดเจนจะทำให้ได้รู้ว่าคุณกำลังต้องเผชิญกับโรคผิวหนังประเภทใด ซึ่งถ้าคุณกำลังประสบปัญหาเรื่องโรคผิวหนัง ขอแนะนำให้อ่านข้อมูลสาเหตุ คือ

สาเหตุที่เกิดจากโรคผิวหนังดังต่อไปนี้

  • โรคผิวหนังที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน
  • โรคผิวหนังที่เกิดจากเครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐานหรือใช้เครื่องสำอางมากเกินไป จนทำให้เกิดการอุดตันและการติดเชื้อของรูขุมขน
  • โรคผิวหนังจากอุบัติเหตุหรือแผลการผ่าตัดต่าง ๆ
  • โรคผิวหนังที่เกิดจากพันธุกรรม
  • โรคผิวหนังที่มาจากการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคจากสภาพแวดล้อมรอบตัว
  • โรคผิวหนังที่เกิดจากอาการภูมิแพ้หรือปัจจัยการแพ้ต่าง ๆ
  • โรคผิวหนังที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของผิวหนังโดยตรง หรือมาจากหลากหลายสาเหตุที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว
  • โรคผิวหนังจากการติดเชื้อไวรัส

การเกิดของโรคผิวหนังมักจะเกิดขึ้นได้โดยที่คุณแทบไม่รู้ตัว เพราะจะมาได้จากหลายปัจจัย ทั้งยังมีโรคผิวหนังที่ถูกแบ่งออกเป็นอีกหลายชนิด มีทั้งแบบร้ายแรงและไม่ร้ายแรง รวมถึงปัจจัยการเกิดที่มาได้จากทางพันธุกรรม การเกิดจากสภาพแวดล้อมรอบด้าน และการเกิดจากการติดเชื้อมาจากผู้อื่น โดยการแสดงออกของโรคจะมีทั้งแบบคล้ายคลึงกันและแตกต่างกัน แต่อาจจะไม่ใช่การติดเชื้อหรือโรคผิวในแบบเดียวกัน ดังนั้นวิธีการดูแลรักษาผิวที่ดีที่สุด คือ การดูแลตัวคุณเอง คอยสังเกตดูอาการผิดปกติต่าง ๆ เมื่อมีอาการเบื้องต้นที่ผิดแปลกไปจากเดิม ไม่ควรนิ่งนอนใจ แต่ควรรีบปรึกษาแพทย์ใกล้บ้านทันที! เพื่อไม่ทำให้ปัญหาเกิดการลุกลามและอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต

 

 


2.โรคผิวหนังทั่วไปที่พบได้บ่อย มีอะไรบ้าง

เชื่อว่าใครหลายคนที่ต้องเผชิญอยู่กับปัญหาของโรคผิวหนัง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ย่อมทำให้เกิดความกังวลใจไม่น้อย ทั้งยังสร้างความรู้สึกสับสนว่าโรคผิวหนังที่เป็นอยู่นั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุใด และเป็นเชื้อแบบไหน เพราะโรคผิวหนังจะถูกแบ่งออกได้เป็นหลายรูปแบบ เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องโรคผิวหนังแล้ว จึงจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อได้รู้ถึงรายละเอียดในเชิงลึกและทำให้วิธีการรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง แต่ถ้าคุณต้องการรู้ถึงสาเหตุของอาการเบื้องต้น ลองมาดู โรคผิวหนังที่สามารถพบได้บ่อยในประเทศไทย คือ

โรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในประเทศไทย มีดังต่อไปนี้

2.1   สิว (Acne)

สิวหรือ Acne เป็นโรคผิวหนังที่พบได้มากในทุกประเทศทั่วโลก โดยจะเกิดขึ้นทั้งในช่วงของวัยรุ่นหนุ่มสาวและวัยทำงาน โดยเฉพาะในเพศชายจะมีได้มากกว่าเพศหญิง แต่จะขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี เพราะวัยรุ่นบางคนอาจจะ เป็นเพศหญิงที่มีปริมาณของสิวมากกว่าเพศชาย ลักษณะของสิวจะเป็นแล้วหายไป แต่ก็จะกลับมาเป็นซ้ำที่เดิมบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังปรากฏในลักษณะของสิวผื่นที่เป็นตุ่มขนาดเล็ก กระจายบนพื้นผิวของใบหน้า, หลัง, หน้าอก, คอ, แขน และขาได้ทั้งหมด

2.2  ฝ้า (Melasma)

ฝ้าบนผิวหรือ Melasma จะพบได้มากในเพศหญิง โดยเฉพาะผู้หญิงในโซนเอเชียที่มีผิวคล้ำ จะปรากฏฝ้าที่มีลักษณะเป็นเม็ดสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ รวมไปถึงการพัฒนากลายเป็นปื้นสีเข้ม ที่จะปรากฏบนผู้หญิงวัยกลางคนมากที่สุด เกิดขึ้นจากเซลล์เม็ดสีผิวทำงานผิดปกติหรือการผลิตของเม็ดสีเมลานินเป็นไปอย่างไม่สมดุล และทำให้เซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนังปรากฏเป็นจุดน้ำตาลอ่อนหรือปื้นขนาดใหญ่สีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีน้ำตาลไหม้  ที่บริเวณโหนกแก้มเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งฝ้าไม่ถือว่าเป็นโรคหรือภาวะร้ายแรงใด ๆ แต่ทำให้ผิวเกิดความไม่สวยงาม จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้หญิงหลายคนเลยทีเดียว ลักษณะโดยรวมของฝ้า คือ การขึ้นเป็นวงเล็กสีน้ำตาลทั้งแบบสีอ่อนและสีเข้มกระจายไปทั่วบริเวณโหนกแก้มก่อน จากนั้นจึงค่อยขยายพื้นที่และกลายเป็นปื้นสีเข้มไปในที่สุด ถ้าปล่อยให้เป็นระยะเวลานาน ฝ้าจะฝังลึกเข้าสู่เซลล์ผิวและทำให้รักษายาก อาจเป็นได้ทั้งแบบกระจุกและกระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้า

 

2.3  กระ (Freckles)

ปัญหากระมักจะเกิดขึ้นจากพันธุกรรมและความผิดปกติของการสร้างเม็ดสี โดยจะมีลักษณะคล้ายกับฝ้า แต่จะเป็นเพียงแค่จุดสีน้ำตาลไปจนถึงสีน้ำตาลเข้มและสีดำ แต่ไม่ขึ้นเป็นปื้นเหมือนกับฝ้า จะมีขนาดเล็ก กลม และมีขอบที่ค่อนข้างชัดเจน สามารถขึ้นกระจายไปทั่วบริเวณใบหน้า, ลำคอ, แขน, ขา และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ทั้งหมด โดยเม็ดสีที่ผิดปกตินั้นมักจะติดอยู่ชั้นบนสุดของผิวหนังหรือผิวบริเวณหนังกำพร้า พร้อมปรากฏออกมาเป็นสีที่ค่อนข้างเข้มและชัดเจน

2.4  ติ่งเนื้อ  (Skin Tags/Acrochordon)

ติ่งเนื้อคือลักษณะของผิวที่มีเนื้อเกินออกมา โดยส่วนมากแล้วจะปรากฏทั้งบนใบหน้า, ลำคอ, แขน, ขา และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันทั้งหมด คือ เป็นเนื้อที่เกินออกมาคล้ายกับไฝ แต่จะยาวออกมามากกว่าและเมื่อไปสัมผัสโดนจะรู้สึกเจ็บหรือคัน ทำให้รู้สึกรำคาญได้ไม่น้อยเลยทีเดียว การปรากฏของติ่งเนื้อจะเป็นได้ทั้งสีเนื้อทั่วไป, สีน้ำตาลเข้ม, สีเหลือง, สีน้ำชา และสีดำ วิธีการแก้ไขสามารถจี้หรือเลเซอร์ออกได้

 

2.5  รอยแผลเป็น

รอยแผลเป็นเกิดขึ้นได้จากสิวและการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ เมื่อใดที่เกิดแผลขึ้นกระบวนการของร่างกายจะมีการปิดแผลให้สนิท เพื่อลดการติดเชื้อและทำให้แผลหายเร็วขึ้น แต่ผิวของมนุษย์ในแต่ละรายจะแตกต่างกัน ทำให้บางคนเมื่อเป็นแผลแล้วผิวจะสมานกันสนิท จึงไม่เกิดแผลเป็นใด ๆ แต่ในขณะเดียวกันที่บางคนอาจเสี่ยงต่อปัญหาทางพันธุกรรม ที่เมื่อเป็นแผลแล้วกลับปรากฏแผลเป็นออกมาได้มากกว่าคนทั่วไปและมีโอกาสที่จะเกิดแผลเป็นได้สูงกว่าคนปกติอีกด้วย สำหรับบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นง่ายที่สุด คือ บริเวณใบหน้า, บริเวณหลัง, บริเวณหน้าอก, รอยต่อของแขนและขา รวมไปถึงช่วงบริเวณติ่งหูและไหล่ สำหรับส่วนที่เป็นข้อต่อของร่างกาย มักจะทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่ที่ขยายวงกว้างออกไปและ อาจกลายเป็นแผลคีลอยด์ที่รักษาได้ยากไปในที่สุด

 

2.6  โรคผมร่วง ผมบาง

การร่วงของเส้นผมคนทั่วไปที่ถือว่าเป็นเรื่องปกติจะอยู่ที่ประมาณ 50-100 เส้นต่อวัน เพราะจะเป็นกระบวนการของร่างกายที่ทำให้เกิดการงอกใหม่ของเส้นผม ดังนั้นจึงเป็นการร่วงแบบต่อเนื่อง แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณพบว่าปริมาณผมที่ร่วงในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และเกินกว่าระดับ 50-100 เส้น นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังเผชิญปัญหาผมหลุดร่วงที่อาจจะทำให้ ผมไม่กลับมาขึ้นใหม่อีกครั้งและกลายเป็นปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้าน ที่ทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

2.7  โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis)

หนึ่งในปัญหาผิวหนังที่คนไทยยุคนี้ต้องเผชิญกันมากที่สุด คือ โรคเซ็บเดิร์มหรือโรคของการอักเสบเรื้อรังบนผิวหนัง สาเหตุ คือ ผิวมีการอักเสบจากต่อมไขมันที่อยู่บนชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งโรคนี้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่จะต้องดูแลตัวเองให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการลุกลามและกลายเป็นอันตรายในอนาคต

 

2.8  โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

โรคสะเก็ดเงินเป็นหนึ่งในโรคผิวหนังที่มีความน่ากลัวไม่น้อย เพราะเมื่อเกิดโรคแล้วจะทำให้เกิดการอักเสบบนผิวหนังที่เรื้อรังและรุนแรง พร้อมการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังที่เร็วและมากผิดปกติ จนทำให้ผื่นธรรมดาบนผิวกลายเป็นผื่นอักเสบที่ทำให้ผิวหนาขึ้น เป็นขุย และหลุดลอก การหลุดลอกอาจจะเป็นได้ทั้งแบบทรงกลมหรือทรงรีบนร่างกาย โดยจะเป็นได้ทุกส่วนบนผิว แม้กระทั่งผิวใต้เล็บจะได้รับผลกระทบที่หนังจะหนาขึ้น เมื่อแตกออกเป็นแผ่นแล้วจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและแสบผิว นอกจากนี้ยังปรากฏอาการปวดที่บริเวณข้อตามร่างกาย โดยเฉพาะข้อมือและข้อเท้าที่จะปวดมากผิดปกติ  แม้ว่าการเกิดของโรคจะมาแบบเป็นและหายอย่างรวดเร็ว แต่ก็สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้อีกเรื่อย ๆ จะพบได้มากในช่วงของวัยรุ่นและวัยกลางคน มีลักษณะของผิวที่เป็นผื่นหรือปื้นสีแดงและกลายเป็นขุยสีขาว มีความหนา สามารถดึงออกได้แต่อาจจะทำให้เลือดออกและจะเป็นกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย จะเกิดได้มากตามบริเวณข้อศอก, เข่า, หลัง, หนังศีรษะและบริเวณก้นกบ เป็นต้น สำหรับโรคสะเก็ดเงินนั้นถ้าอาการหนักขึ้นอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต

 

2.9  เชื้อราที่เล็บ (Dermatophytosis)

การเกิดเชื้อราที่เล็บถือเป็นอีกหนึ่งโรคผิวหนังที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะพัฒนาไปสู่การเป็นโรคเล็บขบและทำให้ผิวใต้เล็บเกิดเป็นช่องว่าง จนอาจทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น การติดเชื้อราอาจเป็นได้ทั้งแบบการติดสายราหรือราที่มาในรูปแบบยีสต์ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะต้องผ่านการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เท่านั้น

 

2.10  โรคเล็บขบ (Ingrown Nail)

โรคเล็บขบเป็นโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่รองเท้าที่บีบรัดจนทำให้เล็บผิดรูป หรือการติดเชื้อรา โดยจะทำให้เกิดความเจ็บปวดที่บริเวณมุมเล็บ เพราะเล็บที่งอกออกมาผิดรูปจะแทงเข้าสู่เนื้อจนเลือดออกและกลายเป็นหนองได้ สร้างความรู้สึกเจ็บปวด การบวมแดงเป็นหนอง และการติดเชื้อที่คุณจะต้องก็รีบแก้ไขให้ทันท่วงที

 


วิธีการดูแล และปกป้องผิวหนังของคุณให้ปลอดภัย

ถ้าพบว่าคุณเป็นโรคผิวหนัง สามารถใช้วิธีการดูแลและปกป้องผิวของตัวคุณเองแบบเบื้องต้นก่อนการไปพบแพทย์ เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้การรักษาเป็นไปได้ด้วยดี ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และไม่ทำให้คุณต้องรู้สึกกังวลใจมากจนเกินไป

วิธีการดูแลผิวหนังเบื้องต้น ไม่ให้เกิดโรคผิวหนัง ดังต่อไปนี้

  • มีการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ควรนอนดึกมากจนเกินไป เพื่อทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูสภาพอย่างรวดเร็ว
  • มีการรักษาความสะอาดของผิวอย่างถูกต้องและมีการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ
  • เลือกใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ที่มีคุณภาพ หลีกเลี่ยงการใช้ของไม่ได้มาตรฐานหรือราคาถูกเกินไป จนอาจกลายเป็นโรคผิวที่รักษาได้ยากในอนาคต
  • ถ้าต้องออกกลางแจ้ง ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเสมอและสวมใส่เครื่องแต่งกายมิดชิด เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะแสงแดดโดยตรง
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เน้นผัก, ผลไม้ และเนื้อสัตว์ไม่ติดไขมัน
  • ถ้าต้องเผชิญกับมลภาวะหรือมลพิษ ควรมีการสวมใส่เครื่องป้องกันต่าง ๆ หรือมีวิธีการดูแลผิว เพื่อกำจัดมลภาวะออกจากผิวอย่างรวดเร็ว
  • ลดความตึงเครียด สร้างความผ่อนคลาย ดูแลสภาพจิตใจให้ดีอยู่เสมอ เพื่อปรับให้ฮอร์โมนทำงานอย่างสมดุล
  • มีแผนของการตรวจสุขภาพ ร่างกาย และผิวประจำปี ถ้ามีเหตุผิดปกติใด ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

โรคผิวหนัง ควรรักษาให้ถูกวิธี  กับเเพทย์เฉพาะทาง ไม่เช่นนั้น อาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาภายหลัง ไม่ว่าจะเป็น

  1. เสียเงินฟรี รักษาไม่หาย
  2. เกิดอาการรื้อรัง
  3. รักษาผิดวิธี
  4. เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน
  5. สถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐาน

 


ประสบการณ์ มากกว่า 15 ปีของ พญ. มริญญา ผ่องผุดพันธ์

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก ( Education )

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

รีวิว จากผู้ที่เข้ารับการรักษา โรคผิวหนัง กับคลีนิก Dsecret clinic  

ถ้าคุณต้องเผชิญปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนังที่เป็นแล้วไม่หายขาด หรือใช้วิธีการรักษาอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น ขอแนะนำการรักษาจาก Dsecret clinic ที่การันตีจากผู้รักษาจริง ให้บริการได้อย่างดีเยี่ยม เพราะคลินิกของเรามีคุณหมอที่เก่งโรคผิวหนัง เข้าใจต่อทุกปัญหาของผู้ที่ต้องเผชิญเรื่องโรคผิวหนัง จากแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ดูแลทุกเรื่องและเข้าถึงทุกความต้องการของลูกค้ามาโดยตลอด พร้อมให้คำปรึกษาฟรีและให้บริการอย่างเต็มที่


Dsecret Clinic คลินิก เปิดบริการรักษา โรคอื่น ๆโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้ 

รักษาเล็บขบ  หายขาด โดยเทคนิคการผ่าตัด เฉพาะทาง

การรักษาเล็บขบ ที่คลินิก Dsecret Clinic เราจะประเมินการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดเพื่อทำให้ปัญหา เล็บขบ และปัญหาต่าง ๆ หายขาด มีการใช้วิธีรักษาแบบใหม่โดยการผ่าตัดจากแพทย์ โดยตรง เพื่อทำให้คุณไม่กลับมาเป็นเล็บขบอีก แค่ตัดเล็บขบธรรมดาไม่ดีพอที่จะทำให้ปัญหาเหล่านี้หายไป ดังนั้นคุณจึงต้องเลือกรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ ซึ่งคลินิกของเราจะเน้นการรักษาแบบไม่กลับมาเป็นอีกและเลือกรักษาโดยแบบให้การถอดเล็บเป็นวิธีสุดท้ายเท่านั้น พร้อมการเลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสูตรพิเศษจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทางคลินิกของเราเป็นเจ้าแรกนำเข้ามาให้บริการกับลูกค้าทุกคน จึงทำให้แผลหายเร็วขึ้นและสามารถยับยั้งการติดเชื้อได้อย่างดีเยี่ยม มีเทคนิคการผ่าตัดจากแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ให้คำปรึกษาและแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดหรือการถอดเล็บ ดังนั้นคุณจึงสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างมั่นใจ

รักษาผมร่วง โดยไม่รู้สาเหตุ ด้วยห้องแล็บตรวจที่ได้มาตรฐาน

Dsecret clinic คลินิก รักษาผมร่วง ผมบาง ผมร่วงเป็นหย่อม ให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ดีที่สุด นำทีมบริหารโดย คุณกิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทาง จบ ปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกา ที่ลงมือดูแลคนไข้เองทุกเคสด้วยระดับมืออาชีพ การันตีด้วยประสบการณ์การรักษามากกว่า 10,000 เคส พร้อมผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความประทับใจของคนไข้จริงจนต้องบอกต่อ

(ไม่ใช่ปลูกผมอย่างเดียว เหมือน บริการสำหรับคนที่ผมร่วงแบบไม่รู้เหตุ จะมีแล็บเจาะเลือดไปตรวจ)


สถานที่ตั้ง ของคลีนิก Dsecret clinic

แผนที่ มา Dsecret Clinic คลิกที่นี่

คลินิกผิวหนัง เดอซีเคร็ท
67 ซอย ประชาชื่น 2 ถนน ริมคลองประปา
แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
tel://0914629154

ถ้าหากท่านไม่สะดวกเดินทางมาที่ เดอซีเคร็ท
ท่านสามารถพูดคุยกับคุณหมอโรคผิวหนังได้ที่ SEVEN PLUS CLINIC
589 ปากถนนพระรามเก้า ซอย 51 สวนหลวง Bangkok 10250
tel://0973649934
Line ID : @sevenplusclinic
เปิดบริการวันจันทร์ – วันอาทิตย์ 10:00 น ถึง 19:00 น ยกเว้นวันอังคาร

แขวงบางบอนเหนือ แขวงคลองบางพราน
แขวงบางบอนใต้ แขวงคลองบางบอนถนนกาญจนาภิเษก ถนนบางบอน 3
ถนนเอกชัย ถนนบางบอน 4
ถนนบางขุนเทียน ถนนบางบอน 5
ถนนบางบอน 1 ถนนพรมแดน
ถนนกัลปพฤกษ์ ถนนพรหมราษฎร์
ถนนบางบอน 2 ถนนมนธาตุราชศรีพิจิตร์

 

วัดบางบอน โรงพยาบาลบางมด 3
โรงพยาบาลบางปะกอก 8

 

บิ๊กซี ซุเปอร์เซ็นเตอร์ เขตบางบอน Canopy Ekachai-Bangbon
ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส แคโนพี เอกชัย-บางบอน
อีโค่ริง

 

BTS ภาษีเจริญ

 

โรงเรียนศึกษานารีวิทยา โรงเรียนนวลนรดิศวิทยาคมรัชมังคลาภิเษก

 

ลลิล กรีนวิลล์ พระราม 2 เอกชัย Modern Condo
คอนโดวงแหวน โมเดินร์คอนโด

 

กองกำกับการตำรวจม้า ศาลแขวงบางบอน
เรือนจำพิเศษธนบุรี สถานธนานุเคราะห์ 24
ทัณฑสถานหญิงธนบุรี สถานีตำรวจนครบาลบางบอน
สำนักงานประกันสังคม อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง10
สำนักงานเขตบางบอน