หน้าแรก คลินิกรักษา รอย แผลเป็น บน ใบหน้า

วิธีรักษา: รอย แผลเป็น บน ใบหน้า

รอยแผลเป็น ปัญหาที่คอยกวนใจ

0

รอยแผลเป็น ปัญหาที่คอยกวนใจ

รอยแผลเป็น คือ รอยที่เหลือหลังจากบาดแผลหายสนิทหรือแผลเป็นจากอุบัติเหตุ มักชัดเจนกว่าแผลจากการผ่าตัดและบาดแผลธรรมดา ซึ่งหากแผลเป็นอยู่ในแนวเดียวกับรอยย่นผิวหนัง แผลเป็นจะเห็นไม่ชัด


รอยแผลเป็นอาจทำเสียโฉม

ในหลายครั้งอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นโดยไม่ทันระวังตัวและทิ้งร่องรอยไว้ บางรอยแผลเป็นอาจจะใช้เวลาไม่นานก็หายไป แต่ในอุบัติเหตุใหญ่ที่สร้างแผลผ่าตัดหรือแผลฉกรรจ์ ซึ่งมันจะไม่เป็นปัญหาเลยถ้ารอยแผลเป็นอยู่ในร่มผ้า แต่หากเป็นแผลเป็นบริเวณ แขน ขา หรือใบหน้าอาจจะเป็นสิ่งที่คอยกวนใจกับสาวๆ ผู้รักในความงามอย่างแน่นอน ดังนั้นวิธีรักษารอยแผลเป็นมีดังนี้

  • ซื้อยาจากร้านขายยาก็สามารถบรรเทาได้ แต่อาจจะหายช้าหรือไม่หายไม่หมด
  • ทำเลเซอร์ลดรอย
  • ทายาที่ช่วยสร้างคอลลาเจนจำพวกกรดวิตามินเอ
  • ฉีดสเตียรอยด์เข้าไปในแผลเป็น และสามารถรักษาด้วยความเย็น เลเซอร์ และการฉายรังสี แต่ต้องทำการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง

ดังนั้นวิธีรักษารอยแผลเป็น แตกต่างกัน เพราะแผลเป็นมีหลายชนิด ทำให้ต้องศึกษาเรื่องการรักษาดีๆ ถึงจะรักษารอยแผลเป็นให้หายหรือจางลงได้ เราจึงควรเข้ารับการปรึกษาและรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อรักษาให้รอยแผลเป็นหายหรือจางลงได้อย่างปลอดภัย

ปรึกษาปัญหา รอยแผลเป็น คลิกที่นี่

ชนิดของแผลเป็น

แผลเป็นยังมีรูปแบบการเป็นร่องรอยอีกด้วยสังเกตุได้จากลักษณะของแผลเป็นว่ามีลักษณะอย่างไร มีความแข็งหรือนุ่ม โดยมีวิธีสังเกตุดังนี้

  • แผลเป็นแบบเนื้อแหว่งหายไป ผิวตรงนั้นจะยุบตัวมากกว่าผิวปกติ
  • แผลเป็นแบบนูน เป็นแผลที่มีเนื้อแข็ง และนูนตามแนวแผลเดิม
  • แผลเป็นแบบคีลอยด์ แผลนูนแต่การปูดของแผลเป็นจะลุกลามออกมา

ดังนั้น แผลเป็นชนิดต่างๆ อาจจะทำให้ผิวเกิดความไม่สวยงาม วิธีที่รักษาแผลเป็นให้ดูดีขึ้น หรือทำให้หายไป เราจึงควรเข้ารับคำปรึกษาและรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง เพื่อให้เราได้รับการรักษารอบแผลเป็นได้ปลอดภัย

แอดไลน์ปรึกษาอาการ รอยแผลเป็น คลิกที่นี่

ซื้อยามาทาแผลเป็นเอง จะหายไหม

การักษาแผลเป็นหากปล่อยไว้ก็สามารถหายเองได้แต่อาจจะใช้เวลานานเล็กน้อย แต่เนื่องจากการรักษาแผลเป็นแต่ละชนิดก็มีขั้นตอนการรักษาแตกต่างกัน ถ้าซื้อยามาทาเองบางครั้งอาจจะไม่ถูกต้องกับชนิดและอาการของแผลเป็นนั้นๆ บางครั้งอาจจะทำให้เกิดอาการแบบนี้

  • ทาแล้ว ไม่หาย
  • ทาแล้วเกิดอาการคัน บริเวณแผลเป็น
  • ทาแล้วแผลเป็น เกิดอาการแดง ระคายเคือง
  • รอยแผลเป็นขยายใหญ่ขึ้น

ดังนั้นการรักษาปัญหาแผลเป็นนั้น จำเป็นต้องเข้ามารักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง โดยต้องรีบรักษาตั้งแต่เป็นแผลตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้การรักษานั้นง่ายกว่า ปล่อยแผลเป็นไว้เป็นเวลานาน ถึงจะมารักษา

ปรึกษาปัญหา รอยแผลเป็น คลิกที่นี่

การรักษาทางการแพทย์ช่วยได้

เมื่อการรักษาเองหรือรอแผลเป็นยุบตัวเอง อาจจะต้องใช้เวลานาน หรือ รอยแผลเป็นไม่จางลง อาจจะไม่ตอบโจทย์ เราจึงขอแนะนำ รักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง มีวิธีรักษาดังนี้

  • การรักษาแผลเป็นแบบมีรอยดำรอยแดง ต้องใช้ยาลดรอยดำรอยแดง หรือทำเลเซอร์ลดรอยก็ช่วยได้แล้ว
  • แผลเป็นแบบยุบตัว ต้องทายาที่ช่วยสร้างคอลลาเจนจำพวกกรดวิตามินเอ
  • แบบนูนและคีลอยด์ สามารถฉีดสเตียรอยด์เข้าไปในแผลเป็น และสามารถรักษาด้วยความเย็น เลเซอร์ และการฉายรังสีร่วมด้วย

แอดไลน์ปรึกษาอาการ รอยแผลเป็น คลิกที่นี่

หากมีข้อสงใสใน หรือสอบถามเกี่ยวกับการดูแลผิวหนังและแผลเป็น ซึ่งเรามีทั้งบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เพื่อแก้ปัญหาสุขภาพของผิวหนัง โดยสามารถขอคำปรึกษากับทาง “ Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic ” โดย พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์ ผู้มีประสบกานณ์ อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง อาจารย์พิเศษเเผนกผิวหนัง ม.เเม่ฟ้าหลวง อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี รอให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาทุกเรื่องปัญหาที่เกี่ยวกับผิวและเล็บของคุณ โดยสามารถติดต่อเราได้ 2 ช่องทางด้วยกัน

“Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” คลินิกรักษาโรคผิวหนังโดยเฉพาะ

หากคุณกำลังเจอกับปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง คุณสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของ เพื่อขอคำปรึกษาSeven Plus Clinic และ D’Secret Clinicได้ทุกสาขา ไม่ว่าคุณกำลังเจอปัญหาโรคผิวหนังแบบไหนอยู่ ทางคลินิกจะคอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิดและมีความตั้งใจในการบริการให้กับคุณอย่างดีที่สุดด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคและผิวหนังและการให้บริการโดยเฉพาะ

ประสบการณ์การทำงาน พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ 

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

การันตรีด้วยรีวิวมากมาย ของทางคลินิค

รอยแผลเป็นที่ขา
ครีมลดรอยแผลเป็น pantip
รอยแผลเป็นจากสิว
เพลงรอยแผลเป็น
วิธีลบรอยแผลเป็น แบบธรรมชาติ
ครีมลดรอยแผลเป็นที่ขา
รอยแผลเป็นนูน

ครีมลดรอยแผลเป็น รถล้ม

ป้องกันแผลเป็น
รักษาแผลเป็น
แผลเป็นนูน
เป็นแผลเป็นง่าย เกิดจาก
รอยแดงจากแผล ตกสะเก็ด
แผลเป็นลึก
แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม

แผลเป็น นูน ทายา หาย ไหม

คลินิกรักษาแผลเป็น
คลินิกรักษา แผลเป็น ใกล้ ฉัน
คลินิกรักษาแผลเป็นนูน
คลินิกลบรอยแผลเป็น ใกล้ฉัน
คลินิกเลเซอร์แผลเป็น ใกล้ฉัน
เลเซอร์แผลเป็นที่ขา ราคา
เลเซอร์แผลเป็น ยันฮี pantip
เลเซอร์ แผลเป็น ที่ไหน ดี – pantip
เป็นแผลเป็นง่าย เกิดจาก
แผลเป็นหายได้ไหม
รักษาแผลเป็น
วิธีรักษา รอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม
การดูแลแผลผ่าตัด ไม่ให้เป็น แผลเป็น
แผลเป็น นูน ทายา หาย ไหม
ศัลยกรรม แผลเป็น แพง ไหม
วิธีลบรอยแผลเป็น แบบธรรมชาติ
รักษาแผลเป็น pantip
ศัลยกรรม แผลเป็น แพง ไหม
แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม
รอยแผลเป็นที่ขา
ลบรอยแผลเป็น pantip
ลบรอยแผลเป็นผ่าตัด
รักษาแผลเป็นนูน ที่ไหนดี
ลบรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด pantip
ผ่าตัดแผลเป็น pantip
แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม
เลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
ศัลยกรรม แผลเป็น แพง ไหม
การดูแลแผลผ่าตัด ไม่ให้เป็น แผลเป็น
ลบรอยแผลเป็น pantip
รักษาแผลเป็นนูน ที่ไหนดี

 

รอยแผลเป็น รักษาได้ โดยแพทย์เฉพาะทาง

0

รอยแผลเป็น รักษาให้หายได้จริงหรือไม่

ปัญหา รอยแผลเป็น ไม่ว่าเมื่อไรก็กวนใจ ยิ่งถ้าเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ มีความหนาและนูนในบริเวณที่เห็นได้ชัดอาจทำให้เสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต การผ่าตัดแก้ไขแผลเป็น (Scar Revision) จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในการลดเลือนรอยแผลเป็น คืนความมั่นใจให้คุณกลับมาอีกครั้ง ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” มีแพทย์เฉพาะทางนำทีมโดย พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์ พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลรักษารอยแผลเป็นของคุณไม่ให้มากวนใจคุณอีกต่อไป คลินิกที่คุณ กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และดารานักแสดง ต่างให้ความไว้วางใจ เลือกใช้บริการ

ปรึกษาปัญหา รอยแผลเป็น คลิกที่นี่

มาทำความรู้จักกับ รอยแผลเป็น ว่าเป็นอย่างไร

สาเหตุของรอยแผลเป็น เป็นอย่างไรบ้าง และรอยแผลเป็นคือ รอยที่เหลือหลังจากบาดแผลหายสนิท หากแผลเป็นอยู่ในแนวเดียวกับรอยย่นผิวหนัง แผลเป็นจะไม่ชัด เพราะซ่อนไปในแนวผิวหนัง ดังนั้นแผลเป็นจากอุบัติเหตุจึงมักชัดเจนกว่าแผลจากการผ่าตัด มีลักษณะแผลเป็นที่มีปัญหาแยกได้ตามลักษณะ ได้แก่

  1. ปัญหาแผลนูนมักเกิดจาก 2 ภาวะ คือ
  • แผลคีลอยด์ (Keloid) เป็นแผลที่นูนออกนอกขอบเขตของแผลเดิมมาก มีอาการคัน มักเกิดบริเวณหน้าอกจากการผ่าตัดหัวใจ จากการเป็นสิวที่ร่องอก บริเวณหัวไหล่จากการปลูกฝี ติ่งหูหลังการเจาะหู หรือเป็นที่อื่น ๆ และปัจจัยทางพันธุกรรมเสริม
  • แผลเป็นนูน (Hypertrophic Scar) เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายเพื่อให้แผลหาย แผลเป็นอยู่ในขอบเขตของแผลเดิม
  1. แผลเป็นหลุม
  2. แผลยืดกว้างจากรอยเย็บเดิม
  3. แผลที่มีการดึงรั้ง (Scar Contracture) โดยเฉพาะเมื่อแผลเชื่อมโยงระหว่างข้อต่อ
  4. แผลที่มีความตึง

ติดต่อสอบถามรักษา รอยแผลเป็น คลิกที่นี่

วิธีการ รักษาแผลเป็น นั้นมีหลายวิธีด้วยกัน

การรักษาแผลเป็น แต่ละชนิดก็มีขั้นตอนการรักษาแตกต่างกัน ถ้าแผลเป็นแบบมีรอยดำรอยแดง ก็สามารถใช้ยาลดรอยดำรอยแดงได้ รวมถึงหลีกเลี่ยงแสงแดด หรือทำเลเซอร์ลดรอยก็ช่วยได้แล้ว ส่วนแผลเป็นแบบยุบตัว ต้องทายากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนพวกกรดวิตามินเอ หรือกระตุ้นเนื้อเยื่อด้วยการผ่าตัดหรือเลเซอร์ก็ช่วยได้ ส่วนแผลเป็นแบบนูนและคีลอยด์ ต้องฉีดสเตียรอยด์เข้าไปในแผลเป็น บางคนอาจต้องรักษาแผลเป็นด้วยความเย็นและเลเซอร์ รวมไปจนถึงการฉายรังสีร่วมด้วย

  1. การฉีดยารักษาแผลเป็น เป็นการฉีดสเตียรอยด์เข้าในก้อนแผลเป็น เพื่อให้ก้อนนิ่มลง ลดขนาด ลดอาการคัน และลดความนูนของแผล โดยปกติจะฉีดห่างกัน 2 – 4 สัปดาห์ โดยทั่วไปที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” จะฉีดต่อเนื่องจนกว่าก้อนยุบลง เนื่องจากถ้าหยุดฉีดแล้วมักเกิดแผลเป็นใหม่ได้ จึงต้องนัดติดตามอาการต่อทุก 2 – 3 เดือน ปัญหาที่พบบ่อยหลังการฉีดคือ ผิวหนังบางไขมันยุบ ซึ่งแก้ไขได้ยาก การฉีดต้องใช้ความระมัดระวังด้านปริมาณของยาและตำแหน่งเข็ม การตอบสนองต่อยาของผู้ป่วยส่วนบุคคลจึงควรฉีดโดยแพทย์เฉพาะทาง ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” มีทีมแพทย์เฉพาะทางที่พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตลอดการรักษา คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าจะไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน
  2. การใช้เลเซอร์ เพื่อลดอาการแดง และลดเส้นเลือดบริเวณที่ฉีดยา
  3. การผ่าตัดแก้ไขแผลเป็น (Scar Revision) มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
  • ตัดแผลเป็นทั้งหมดออก แล้วทำการเย็บใหม่ ซึ่งแผลใหม่ที่เย็บจะเป็นเส้นไม่มีขาตะขาบ
  • ตัดบางส่วนของแผลที่มีปัญหาออกแล้วทำการเย็บบริเวณดังกล่าว และเมื่อแผลหายดีแล้วจึงทำการตัดส่วนที่เหลือของแผลเป็นออกอีกครั้งจนหมด หรือรักษาส่วนที่เหลือด้วยการฉีดสเตียรอยด์ มักใช้ในแผลเป็นที่มีขนาดใหญ่มาก ไม่สามารถตัดครั้งเดียวได้หมด
  • แผลที่อยู่ตำแหน่งตึงจะต้องเปลี่ยนทิศทางการเย็บใหม่เพื่อให้แผลลดความตึงตัว

แอดไลน์ปรึกษาอาการ รอยแผลเป็น คลิกที่นี่

ทาง Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic มีทีมแพทย์ที่มีประสบกาณ์กว่า 15 ปีในเรื่องของแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ได้รับการรองรับจากแพทยสภาแห่งประเทศไทย ห้องผ่าตัดได้รับมาตรฐานสากล และที่สำคัญคุณจะได้รับการดูแลจากผู้ให้การรักษา ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ/ใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ อย่างแน่นอน

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

รอยแผลเป็นที่ขา
ครีมลดรอยแผลเป็น pantip
รอยแผลเป็นจากสิว
เพลงรอยแผลเป็น
วิธีลบรอยแผลเป็น แบบธรรมชาติ
ครีมลดรอยแผลเป็นที่ขา
รอยแผลเป็นนูน

ครีมลดรอยแผลเป็น รถล้ม

ป้องกันแผลเป็น
รักษาแผลเป็น
แผลเป็นนูน
เป็นแผลเป็นง่าย เกิดจาก
รอยแดงจากแผล ตกสะเก็ด
แผลเป็นลึก
แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม

แผลเป็น นูน ทายา หาย ไหม

คลินิกรักษาแผลเป็น
คลินิกรักษา แผลเป็น ใกล้ ฉัน
คลินิกรักษาแผลเป็นนูน
คลินิกลบรอยแผลเป็น ใกล้ฉัน
คลินิกเลเซอร์แผลเป็น ใกล้ฉัน
เลเซอร์แผลเป็นที่ขา ราคา
เลเซอร์แผลเป็น ยันฮี pantip
เลเซอร์ แผลเป็น ที่ไหน ดี – pantip
เป็นแผลเป็นง่าย เกิดจาก
แผลเป็นหายได้ไหม
รักษาแผลเป็น
วิธีรักษา รอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม
การดูแลแผลผ่าตัด ไม่ให้เป็น แผลเป็น
แผลเป็น นูน ทายา หาย ไหม
ศัลยกรรม แผลเป็น แพง ไหม
วิธีลบรอยแผลเป็น แบบธรรมชาติ
รักษาแผลเป็น pantip
ศัลยกรรม แผลเป็น แพง ไหม
แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม
รอยแผลเป็นที่ขา
ลบรอยแผลเป็น pantip
ลบรอยแผลเป็นผ่าตัด
รักษาแผลเป็นนูน ที่ไหนดี
ลบรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด pantip
ผ่าตัดแผลเป็น pantip
แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม
เลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
ศัลยกรรม แผลเป็น แพง ไหม
การดูแลแผลผ่าตัด ไม่ให้เป็น แผลเป็น
ลบรอยแผลเป็น pantip
รักษาแผลเป็นนูน ที่ไหนดี

 

รอยแผลเป็นเกิดจากอะไร รักษาให้หายได้หรือไม่

0

รอยแผลเป็น คืออะไร

รอยแผลเป็น คือ แผลเป็นเกิดขึ้นจากกระบวนการหนึ่งของร่างกายเพื่อที่จะทำการปิดบาดแผลนั้นให้สนิท การเกิดแผลเป็นในแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมีความเสี่ยงทางพันธุกรรมจึงมีโอกาสเกิดแผลเป็นมากกว่า โดยบริเวณที่เสี่ยงเกิดแผลเป็นได้ง่ายคือหน้าอก หลัง ติ่งหู รอยแผลเป็นที่ขา และไหล่ และหากเป็นบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวของข้อต่อ เช่น หัวเข่าและไหล่ ก็ยิ่งทำให้แผลเป็นขยายออกกว้างขึ้นได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นแผลจาก

  1. อุบัติเหตุ
  2. แผลผ่าตัด
  3. แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
  4. แผลปลูกผม

จะตามมาด้วยการผลิตโปรตีนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าคอลลาเจนเพื่อช่วยสร้างเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายขึ้นใหม่ ทำให้บาดแผลหายเป็นปกติในที่สุด จนเมื่อเวลาผ่านไปสัก 3 เดือน คอลลาเจนใหม่ก็ยังถูกผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเลือดก็มาเลี้ยงมากขึ้นจนแผลนูนเป็นก้อนแข็งและแดง หากคอลลาเจนเหล่านี้หยุดสร้าง และเลือดที่มาเลี้ยงลดลง แผลเป็นจะค่อย ๆ เรียบ นุ่มลง และจางไปในที่สุด


รอยแผลเป็น สาเหตุเกิดจากอะไร

เหตุใดผิวหนังจึงไม่สามารถสมานแผลให้กลับมาเหมือนเดิมแบบไร้รอยตำหนิ  นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราทุกคนอยากให้เป็นหรือ เรามาดูกันว่ารอยแผลเป็น เกิดขึ้นเพราะอะไรหลังจากบาดเจ็บ  เราต้องเข้าใจก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อเราบาดเจ็บ  ดังนั้น มาลองทำความเข้าใจกับขั้นตอนในกระบวนการสมานแผล

  1. ผิวหนังแตกออกจากการบาดเจ็บและเป็นรอยแผลเป็นดำ
  2. ร่างกายของคุณส่งสัญญาณให้สร้างลิ่มเลือดปิดบาดแผล เพื่อให้เลือดหยุดไหล
  3. เซลล์เม็ดเลือดขาวกำจัดเศษซาก เซลล์ที่ตายแล้ว และเชื้อโรค
  4. การสูญเสียน้ำจากรอยแตกของผิวหนัง จะกระตุ้นให้ผิวหนังเข้าสู่ช่วงการสมานแผล
  5. การสูญเสียน้ำจะกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้ทำการสร้างคอลลาเจนอย่างรวดเร็วเพื่อซ่อมแซมบริเวณที่บาดเจ็บ
  6. เพื่อให้บาดแผลปิดอย่างรวดเร็ว คอลลาเจนจะถูกสะสมอย่างไร้ระเบียบแทนที่จะเรียงประสานแบบผิวหนังปกติ จึงทำให้เกิดรอยแผลเป็นขึ้น


 ประเภทของแผลเป็น

เนื่องจากการบาดเจ็บและขนาดของความเสียหายบนผิวหนังแตกต่างกัน จึงส่งผลต่อกระบวนการสมานแผลแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดรอยแผลเป็น ลักษณะต่างกันแผลเป็นสามารถแบ่งเป็นประเภทตามลักษณะของแผลที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  1. แผลเป็นทั่วไป

แผลเป็นที่อาจคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะพบได้บ่อยที่สุด เกิดขึ้นจากกระบวนการรักษาแผลตามธรรมชาติของร่างกาย

  • แผลเป็นชนิดนี้แรกเริ่มมักปรากฏเป็นสีแดงหรือสีคล้ำ
  • นูนขึ้นมาจากผิวหนัง
  • หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ มีสีอ่อน
  • แบนลงเมื่อเวลาผ่านไป

ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 2 ปี แต่ใช่ว่าจะจางหายไปทั้งหมด ยังคงเหลือร่องรอยไม่น่าพึงพอใจทิ้งไว้เช่นเดียวกับแผลเป็นชนิดอื่น ๆ แผลเป็นชนิดนี้มักไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด อาจมีอาการคันบ้าง แต่ก็เพียงช่วงเวลาไม่กี่เดือน ลักษณะของแผลเป็นชนิดนี้ยังขึ้นอยู่กับความกว้างของแผลด้วย หากผิวหนังบริเวณขอบของแผลมาบรรจบกันเมื่อหายดี แผลเป็นนี้จะกลายเป็นเส้นบางและจาง

  1. แผลเป็นคีลอยด์

แผลเป็นคีลอยด์มักมีลักษณะนูนขึ้นจากผิวหนัง ค่อนข้างเป็นมันเงา และไม่มีขนขึ้นที่แผล ในระยะแรกของแผลจะมีสีแดงหรือม่วง หลังจากนั้นสีจึงค่อย ๆ ซีดลงไป ผิวสัมผัสจะให้ความรู้สึกแข็ง ๆ คล้ายยาง เกิดจาก

  • กระบวนการรักษาแผลที่คอลลาเจนถูกสร้างขึ้นมากผิดปกติ
  • ทำให้เนื้อเยื่อของแผลเป็นที่เกิดขึ้นเติบโต
  • จนเกินขอบเขตของแผลเดิมและขยายขึ้นเรื่อย ๆ
  • แม้ว่าแผลจะหายดีแล้วก็ตาม เป็นลักษณะของคีลอยด์

แต่คีลอยด์ในบางบริเวณก็อาจเกิดเป็นก้อนนุ่ม ๆ ได้ เช่น แผลเป็นที่ติ่งหูหลังการเจาะหู แผลเป็นชนิดนี้ยังมักตามมาด้วยอาการ

  • คัน
  • เจ็บ
  • แสบร้อน
  • หากแผลตึงและเกิดใกล้ข้อต่อก็อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวได้ด้วย

ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องระวังเพราะมีโอกาสเกิดแผลเป็นชนิดนี้สูง ได้แก่ แผลบริเวณรอบ ๆ กระดูกหน้าอก แผ่นหลังส่วนบน ต้นแขนหรือหัวไหล่ และติ่งหู

  1. แผลเป็นนูน

แผลเป็นนี้คล้ายคลึงกับคีลอยด์มากทีเดียว เพราะนอกจากจะเกิดจากการผลิตคอลลาเจนรักษาแผลที่ไม่สมดุลเหมือนกัน ลักษณะรูปร่างยังใกล้เคียงกับแผลเป็นคีลอยด์

  • ที่มีสีแดงและนูนขึ้น
  • เพียงแต่แผลเป็นนูนนั้นไม่ขยายกว้างขึ้นกว่าแผลเดิม

แผลเป็นนูนอาจจำกัดการเคลื่อนไหวให้ทำได้ไม่เต็มที่เหมือนปกติ เนื้อแผลเป็นหนาขึ้นกว่าเดิม จากนั้นค่อย ๆ แบนและเลือนลงในช่วงเวลา 2-5 ปี

  1. แผลเป็นจากแผลไหม้

ผิวหนังที่ถูกไหม้อาจพัฒนาจนเกิดแผลเป็นชนิดนี้

  • โดยจะทำให้ผิวหนังตึง
  • อาจส่งผลให้การเคลื่อนไหวบริเวณที่เกิดแผลทำได้ไม่เต็มที่
  • ที่น่ากลัวกว่านั้นคือแผลนี้สามารถเกิดลึกลงไปจนกระทบต่อกล้ามเนื้อ
  • และกระทบเส้นประสาทได้
  1. แผลเป็นหลุมลึก

ปัญหาสิวที่รุนแรงอาจทิ้งร่องรอยแผลเป็นไว้ไม่หาย ซึ่งแผลเป็นจากสิวนั้นมีทั้งชนิดที่เป็นหลุมลึกลงไป หรือปรากฏเป็นรอยยาวบนใบหน้า นอกจากนี้ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังที่เกิดจากโรค เช่น

  • อีสุกอีใส
  • ที่แม้จะรักษาจนหายดีแล้ว
  • ก็ทิ้งรอยหลุมแผลเป็นฝากไว้ได้เช่นกัน


วิธีรักษาแผลเป็นให้จางลง

การรักษาแผลเป็นแต่ละชนิดก็มีขั้นตอนการรักษาแตกต่างกัน วิธีรักษาแผลเป็นขึ้นอยู่กับลักษณะประเภทและอายุของแผลเป็น มีหลายวิธีคือ

  1. การใช้เจลหรือแผ่นซิลิโคนลดแผลเป็น

เป็นวิธีที่ง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา ครีมลดรอยแผลเป็น เพียงวางเจลชนิดนี้ลงบนแผลเป็นวันละ 12 ชั่วโมง ติดต่ออย่างน้อย 3 เดือน

  • ใช้สำหรับลดความแดงของแผลเป็น
  • และอาจช่วยลดขนาดของคีย์ลอยด์
  • หรือแผลเป็นชนิดนูนที่ไม่ขยายใหญ่ให้เล็กลงได้
  1. การใช้แผ่นผ้าแปะกด (pressure dressings)

แผลเป็นจากการไหม้ขนาดใหญ่หรือจากการปลูกถ่ายผิวหนัง อาจทำให้แบนและนุ่มลงได้ด้วยการใช้แผ่นผ้าที่ยืดหยุ่นแปะกดไว้เหนือแผลเป็นตลอดทั้งวัน ประมาณ 6-12 เดือน

  • วิธีนี้ยังสามารถรักษาแผลเป็นที่เป็นมานานให้จางลง
  • ควบคู่กับการใช้เจล
  • หรือแผ่นซิลิโคน
  1. การรักษาด้วยแสงเลเซอร์

ความแดงของแผลสามารถใช้เลเซอร์ช่วยลบรอยแผลเป็นให้จางลงด้วยการเล็งไปที่เส้นเลือดในเนื้อเยื่อแผลเป็น วิธีนี้ยังถูกใช้สำหรับรักษาแผลเป็นจากสิวที่เป็นหลุมลึกให้เรียบลงได้ รวมทั้งกำจัดผิวหนังชั้นบนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป

  • ปัจจุบันการการใช้เลเซอร์ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยและได้ผล
  • การรักษาจึงควรต้องควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาแผลเป็นเท่านั้น

  1. การฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid injections)

สำหรับแผลเป็นประเภทคีลอยด์และแผลเป็นนูนที่ไม่ขยาย สามารถทำให้จางหรือยุบลงด้วยการฉีดสเตียรอยด์ ในปริมาณเข็มเล็ก ๆ ลงไปที่แผลเป็นหลาย ๆ ครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดของแผล และอาจต้องมีการฉีดซ้ำ ปกติจะฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ละครั้งเว้นระยะห่าง 4-6 สัปดาห์

  • เพื่อประเมินการตอบสนองของร่างกาย
  • ถ้าแผลเป็นดีขึ้นจึงอาจรักษาด้วยวิธีนี้ต่อไปอีกเรื่อย ๆ
  1. การฉีดฟิลเลอร์ (Dermal fillers)

เป็นการรักษาแผลเป็นหลุมสิวด้วยการฉีดสารเติมเต็มเข้าไป

  • แต่อาจมีราคาแพง
  • และได้ผลเพียงชั่วคราว
  • ทำให้ต้องฉีดซ้ำบ่อยครั้ง
  1. Skin needling

เป็นการใช้เครื่องมือชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยเข็มขนาดเล็กจำนวนมาก ใช้กดลงกับผิวหนังเพื่อรักษารอยแผลเป็น รอยหลุมสิวและฝ้า

  • นับเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยได้
  • เพียงแต่ต้องทำบ่อยครั้ง
  • หากต้องการให้เห็นผลชัดเจน
  1. การผ่าตัดแผลเป็น

วิธีการรักษาที่อาจช่วยเปลี่ยนลักษณะของแผลเป็น เปลี่ยนตำแหน่ง รูปร่าง ความกว้าง รวมถึงทำให้แผลที่บริเวณข้อต่อหายตึงและการเคลื่อนไหวดีขึ้นได้ แต่วิธีนี้มีข้อระวังคือ

  • อาจมีผลข้างเคียงให้เกิดแผลเป็นจากแผลผ่าตัดมาเพิ่ม
  • หากใช้วิธีนี้กับแผลเป็นนูน
  • ก็ยิ่งเสี่ยงที่แผลจะกลับแย่ลงกว่าเดิม

ส่วนการรักษาแผลเป็นคีลอยด์ หลังการผ่าตัดมักตามด้วยการฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ทันที และไม่แนะนำให้ใช้การผ่าตัดอย่างเดียว เพราะแผลอาจโตขึ้นกว่าเดิม นอกจากการฉีดยาแล้วก็อาจรักษาด้วยรังสีเอกซเรย์และยารับประทานร่วมด้วยได้

 


Dsecret clinic คลินิกรักษาเกี่ยวกับผิวหนังอันดับ 1

“อย่างไรก็ตาม การรักษาที่จะให้ผลดีที่สุด ควรรักษาหลากหลายวิธีควบคู่กัน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของรอยแผลเป็นนั้นๆซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการรักษาเพียงวิธีเดียว”

ศูนย์ความงาม Dsecret clinic คลินิก ให้บริการดูแลรักษาแผลเป็นนูน (Hypertrophic Scar หรือ Keloid) ควบคู่การลดและป้องกันแผลเป็นจากการบาดเจ็บ หรือ ภายหลังการผ่าตัด (Prescar) ด้วยเลเซอร์ V-Multiplex เพื่อเป็นการลดและป้องกันรอยแผลระยะแรกบริเวณผิวหนังที่มีแนวโน้มจะเกิดแผลเป็นในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง ทั้งที่เกิดจาก

  • การบาดเจ็บ
  • แผลเปื่อย
  • ฝี
  • ภายหลังการผ่าตัด

ซึ่งสามารถลดและป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นที่มากเกินไป รวมถึงการรักษาเติมเต็มรอยแผลเป็นชนิดหลุม (Atrophic Scar) เช่น

  • รอยหลุมสิว
  • อีสุกอีใส

เห็นผลลัพธ์ชัดเจนต้อง Dsecret clinic คลินิก ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ดีที่สุด นำทีมบริหารโดย คุณกิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทาง จบ ปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกา ที่ลงมือดูแลคนไข้เองทุกเคสด้วยระดับมืออาชีพ การันตีด้วยประสบการณ์การรักษามากกว่า 10,000 เคส พร้อมผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความประทับใจของคนไข้จริงจนต้องบอกต่อ


ประสบการณ์ มากกว่า 15 ปีของ พญ. มริญญา ผ่องผุดพันธ์

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก ( Education )

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

รอยแผลเป็นที่ขา
วิธีลบรอยแผลเป็น แบบธรรมชาติ
รอยแผลเป็นดํา
ครีมลดรอยแผลเป็นที่ขา pantip
ลบรอยแผลเป็น pantip
ครีมลดรอยแผลเป็น เซเว่น
รีวิวครีมลดรอยแผลเป็น
เลเซอร์รอยแผลเป็น

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

เลเซอร์แผลเป็น ยันฮี pantip
ลบรอยแผลเป็น pantip
เลเซอร์รอยแผลเป็น ที่ขา pantip
ศัลยกรรม แผลเป็น แพงไหม
รักษาแผลเป็นนูน ที่ไหนดี
เลเซอร์แผลเป็น นิติพล
ลบรอยแผลเป็นผ่าตัด
คลินิกรักษาแผลเป็นนูน

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

แผลเป็นสีดํา เกิดจาก
เป็นแผลเป็นง่าย เกิดจาก
แผลเป็น หมายถึง
ลบรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
เลเซอร์รอยแผลเป็น
วิธีรักษาแผลเป็น รอยดํา
มะนาวรักษาแผลเป็น
รอยแผลเป็นนูน

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

แผลเป็นนานแล้ว รักษาได้ไหม
ศัลยกรรม แผลเป็น แพงไหม
วิธีลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า
แผลเป็นหายได้ไหม
วิธีรักษาแผลเป็นที่ขา
รักษาแผลเป็นนูน ที่ไหนดี
แผลเป็นสีแดง
วิธีรักษาแผลเป็น รอยดํา