หน้าแรก คลินิกรักษา รักษา ฝ้า กระ จุด ด่าง ดํา

วิธีรักษา: รักษา ฝ้า กระ จุด ด่าง ดํา

ผิวเป็นกระ เกิดจากอะไร ป้องกันได้ไหม เป็นแล้วรักษาอย่างไรดี

0

กระ (Actinic Keratosis) เป็นอย่างไร

กระ (Actinic Keratosis) หรือแอกทินิก เคอราโทซิส เป็นอีกหนึ่งในปัญหาของผิวที่หลายคนกังวลใจ เพราะนอกจากจะทำให้ผิวไม่กระจ่างใส สีผิวไม่สม่ำเสมอ จนขาดความมั่นใจแล้ว ยังอาจจะก่อนให้เกิดอัตรายที่ไม่คาดคิดตามมาหากไม่ได้รับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องได้อีกด้วย กระ (Actinic Keratosis) นั้นมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะ และสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับอาการของกระ สาเหตุของการเกิดกระ รวมถึงวิธีการรักษาทางการแพทย์ ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” นำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดย พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์ ที่พร้อมจะให้การดูแลคุณอย่างดีที่สุด วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักและแนวทางการรักษา กระ (Actinic Keratosis) ให้มากขึ้นกันอีกนิด เพื่อเป็นแนวทางในการไปรักษาที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic”

อาการของกระ (Actinic Keratosis)

ผู้ป่วยที่เป็น กระ (Actinic Keratosis) ส่วนใหญ่อาจมีรอยบนผิวหนังตามหนังศีรษะ ใบหน้า ปาก หู คอ แขนด้านล่าง และมือ ซึ่งรอยเหล่านี้อาจมีลักษณะหนา เป็นสะเก็ด หรือมีพื้นผิวที่นูนขึ้น และมักมีขนาดเล็กเท่ายางลบที่ก้นดินสอ รวมทั้งอาจมีสีแตกต่างกันออกไป อย่างสีชมพู สีน้ำตาล สีแดง หรือบางครั้งก็อาจมีสีเหมือนกับผิวหนังปกติ ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจมองไม่เห็นรอยดังกล่าวแต่อาจสัมผัสได้ โดยอาจรู้สึกว่ารอยนั้นหยาบกร้านหรือแห้งเมื่อสัมผัสโดน รวมถึงอาจรู้สึกคันหรือแสบร้อนในบริเวณดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีริมฝีปากแตกและแห้งหลังจากตากแดด โดยเฉพาะริมฝีปากล่าง รวมด้วย

สาเหตุของการเกิดกระ (Actinic Keratosis)

สาเหตุหลักของการเกิด กระ (Actinic Keratosis) มาจากการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดหรือแสงเทียมจากเตียงอาบแดดในปริมาณมากหรือเป็นประจำ ทำให้สารเคมีเคราติโนไซท์ที่อยู่ในเซลล์ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยสารเคมีชนิดนี้ทำหน้าที่ผลิตโปรตีนเคราตินที่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อในเส้นผม เล็บ และผิวหนังชั้นนอก ซึ่งความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้ขนาด รูปร่าง หรือการทำงานของเคราติโนไซท์เปลี่ยนแปลงไป

  • ผู้ที่มีผิวขาว และมีตาสีฟ้า สีเขียว หรือสีอ่อน
  • ผู้ที่มีผมสีแดงหรือสีบลอนด์
  • ผู้ที่ตากแดดเป็นประจำ หรืออาศัยอยู่ในที่ที่มีแดดร้อนจัด
  • ผู้ที่มีแนวโน้มถูกแดดเผาผิวหนังได้ง่าย หรือเคยผิวหนังไหม้มาก่อน
  • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเนื่องจากความเจ็บป่วย ยาที่ใช้ในการปลูกถ่ายอวัยวะ การบำบัดภูมิคุ้มกัน การติดเชื้อเอชพีวีหรือติดเชื้อเอดส์ การเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือเคยเป็นโรคมะเร็งผิวหนังหรือกระแดดมาก่อน

ปรึกษาปัญหา กระ คลิกที่นี่

การรักษากระด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic”

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการแพทย์หลากหลายรูปแบบที่ช่วยบรรเทากระบนใบหน้าให้ดีขึ้นได้ ซึ่งวิธียอดนิยมคือ การใช้เลเซอร์ นอกจากนี้ยังมีวิธีรักษากระรูปแบบอื่นๆ เช่น การทำทรีตเมนท์ การจี้กระ การฉีดยาเมโส หรือการทำไอออนโต เป็นต้น โดยวิธีการรักษากระนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และดุลยพินิจของแพทย์โดยทาง “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” ของเรามีแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนังโดยเฉพะ ที่มีประสบการณ์มามากกว่า 15 ปีของ พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์ รอให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาทุกเรื่องปัญหาที่เกี่ยวกับผิวของคุณ

การรักษาด้วยเลเซอร์ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic”

การใช้เลเซอร์เพื่อทำให้กระแลดูจางลง โดยการยิงคลื่นแสงความยาวคลื่นต่างๆ ลงไปถึงชั้นผิวด้านใน เพื่อให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง พร้อมกับผลัดเซลล์ผิวได้เร็วยิ่งขึ้น การรักษาด้วยเลเซอร์เป็นการกำหนดเป้าหมายส่งพลังงานเข้มข้นไปยังบริเวณผิวหนังที่มีปัญหาช่วยในการขจัดเม็ดสีส่วนเกินการศึกษาพบว่า เลเซอร์ Nd YAG 1064 Q-Switched มีประสิทธิภาพในการรักษากระให้ลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มตัวอย่างถึง 62 เปอร์เซ็นต์ จึงใช้เป็นเลเซอร์มาตรฐานในการรักษา กระ ในปัจจุบัน โดยทางคลินิกของเรา ดำเนินการลควบคุมการรักษาด้วยเลเซอร์ โดย พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง เป็นคุณหมอรักษากระที่เก่ง คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าปัญหาเรื่องกระของคุณ ได้รับการรักษากับคลินิก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีเครื่องมือที่สะอาด ทันสมัย คลินิกที่ คุณกิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และดารานักแสดง ต่างให้ความไว้วางใจเลือกใช้บริการเพื่อให้คุณมั่นใจได้เลยว่า กระบนใบหน้าของคุณจะหายไป และไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรงใดๆ ตามมาอย่างแน่นอน

ติดต่อสอบถามรักษา กระ คลิกที่นี่

กระเป็นเรื่องธรรมดาแต่คุณจะสวยสดใสกว่าไหมหาเลือก “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic”

หลายคนต้องการกำจัดออกด้วยเหตุผลด้านความงาม การรักษาด้วยเลเซอร์และยาทามีประสิทธิภาพ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษานานและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ถ้าต้องการการรักษาที่มีประสิทธิภาพควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อกำหนดวิธีการกำจัดที่ดีที่สุด พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง พร้อมมอบผิวใหม่ให้กับคุณ จากประสบการณ์การทำงาน ในวงการแพทย์ผิวหนังมามากกว่า 15 ปี ประสบการณ์การทำงานมากมาย เช่น

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกวิธีการแบบใดก็ตามSeven Plus Clinic และ D’Secret Clinicก็ยังเน้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลสุขภาพพื้นฐานของผิว และการป้องกันแสงแดดอย่างดีที่สุด เพื่อช่วยป้องกัน กระ ใหม่และส่งเสริมการรักษาให้ได้ผลเร็วขึ้น ป้องกันผลข้างเคียงจากการรักษาที่อาจเกิดขึ้นด้วยนั้นเอง

เราพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการดูแลและให้คำปรึกษากับคุณทั้ง 2 สาขา ไม่ว่าจะเป็น “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” เพราะผิวที่ดีที่สุดของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา

แอดไลน์ปรึกษาอาการ กระ คลิกที่นี่

ประสบการณ์การทำงาน พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ 

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

ที่พร้อมจะทำให้คุณหมดกังวลเกี่ยวกับ ติ่งเนื้อให้หายไปจากคุณที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” คลินิกที่คุณ กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และดารานักแสดง ต่างให้ความไว้วางใจ เลือกใช้บริการกับทาง “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” ของเรา หากคุณสะดวกหรือใกล้ที่สาขาไหนคุณสามารถเข้าไปปรึกษาได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงและผิวที่สวยสดใสอยู่เสมอ


รักษากระ
เป็นกระ ใช้อะไรหาย
กระเนื้อ
กระ เกิดจาก
ฝ้า กระ
กระ คือ
กระมีกี่ชนิด
รักษากระ pantip
รักษากระ ที่ไหน ดี pantip
คลินิกรักษาฝ้ากระ
เลเซอร์ฝ้า กระ จุดด่างดํา ราคา
รักษาฝ้า กระ ที่ไหน ดี pantip
เลเซอร์ฝ้า กระ ราคา
เลเซอร์กระ ราคา
คลินิกรักษาฝ้า กระ จุดด่างดํา pantip
Picosecond Laser ราคา ศิริราช
เป็นกระ ใช้อะไรหาย
วิธีรักษากระเนื้อ
รักษากระ pantip
วิธีรักษาฝ้า กระ ให้หายขาดแบบธรรมชาติ
วิธีรักษากระที่แขน
วิธีรักษากระเนื้อแบบธรรมชาติ
ครีมรักษากระ
รักษากระถาวร
รักษากระ pantip
ครีมรักษากระ pantip
รักษากระ ที่ไหนดี
วิธีรักษากระเนื้อ
รักษากระ ฝ้า
กระรักษาหายไหม
รักษากระแดด pantip
ครีมรักษากระในเซเว่น
เป็นกระ ใช้อะไรหาย
รักษากระ pantip
กระขึ้นตามตัว เกิดจาก
หน้าเป็นกระ pantip
หน้าเป็นกระ
หน้าเป็นกระ ใช้ครีมอะไรดี
วิธีรักษากระที่แขน
วิธีรักษาฝ้า กระ ให้หายขาดแบบธรรมชาติ
วิธีรักษากระ
เป็นกระ ใช้อะไรหาย
กระขึ้นตามตัว pantip
กระรักษาหายไหม
หน้าเป็นกระ ใช้ครีมอะไรดี
กระกรรมพันธุ์ รักษา ยัง ไง
กระเนื้อเกิดจากอะไร
ฝ้า กระ เกิดจากอะไร

 

อย่าปล่อยให้ฝ้าทำหน้าด่างพร้อย

0

อย่าปล่อยให้ฝ้าทำหน้าด่างพร้อย

ฝ้า ปัญหาสุดกลุ้มใจของใครหลายคน โดยฝ้าเกิดจากสีใต้ชั้นผิวหนัง เราควรให้ความใส่ใจ เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ยากที่จะรักษาให้หายขาด แล้วถ้าไม่หาทางหยุดฝ้า หรือป้องกัน จะดีกว่ามั้ยที่มาเริ่มทำความรู้จักกับฝ้า ก่อนที่ฝ้าจะกลายเป็นปัญหาของผิวหน้าของคุณ

ทำความรู้จักฝ้า

ฝ้า เกิดจากการที่เซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนัง หรือเม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ โดยขึ้นเป็นวงเล็กๆ สีน้ำตาล และก็จะค่อยๆขยายเป็นปื้นและฝังลึกลงไปในเซลล์ผิว มีวิธีสังเกตดังนี้

  • ขึ้นบริเวณใบหน้า เฉพาะบริเวณโหนกแก้ม
  • มักเกิดกับผู้หญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 30-40 ปีขึ้นไป
  • ผู้หญิงมีโอกาสเป็นฝ้ามากกว่าผู้ชายถึง 9 เท่า

ส่วนการรักษาฝ้านั่นไม่ง่ายเลย เราควรจะรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อให้การรักษาฝ้าปลอดภัย 100%  ดังนั้นควรจะเข้ารับคำปรึกษาและรักษากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง เพื่อให้การรักษาเห็นผลและปลอดภัยที่สุด

จุดเริ่มต้นของฝ้า

สาเหตุของฝ้านั่นเกิดได้จากหลายอาการ ปลายทางคือการที่เซลล์เม็ดสีผิดปกติ แต่ทางที่ดีควรศึกษาจุดเสี่ยงต่อการเกิดฝ้าเอาไว้ด้วย เช่น

  • แสงแดด
  • สีฟ้าจากคอมพิวเตอร์
  • การใช้สมาร์ทโฟน
  • ฮอร์โมน

โดยหลักๆ สาเหตุมาจาก แสงแดด ซึ่งจะมีรังสี UVA และ UVB นั่นเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ให้ผลิตเม็ดสีเมลานิน ยิ่งโดนมากขึ้นก็จะยิ่งมีสีเข้มขึ้น เราควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ให้เพียงพอ หรือควรเข้าปรึกษาและรักษากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง  เพื่อให้ได้ความรู้ที่ถูกต้องและวิธีรักษาที่ปลอดภัยที่สุด

รักษาฝ้าด้วยตัวเอง อาจไม่ดีอย่างที่คิด

โดยทั่วไป อาจจะคิดว่าการรักษาฝ้าคือการหลีกเลี่ยงแสงแดด หากคิดว่าเพียงเท่านี้เพียงพอแล้วอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะปัญหาจริงๆคือรังสีซึ่งแฝงตัวอยู่กับสิ่งของรอบตัว เช่น

  • คอมพิวเตอร์
  • สมาร์ทโฟน
  • จอทีวี
  • แท็บเล็ต

กว่าจะรู้ตัวอีกที  เราก็อาจจะเป็นฝ้าลึกไปแล้ว  และทำให้การรักษาฝ้าให้จาง ก็จะเป็นการยากมากขึ้น ทางที่ดีควรเข้ารับการปรึกษาและรักษาฝ้ากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญ  เพื่อให้ปลอดภัยกับผิวหนังและรอยฝ้าจางลงอย่างดีที่สุด

การรักษากับผู้เชี่ยวชาญนั้นดีที่สุด

เนื่องจากว่าหลายคนพยายามซื้อยามาใช้เอง หลีกเลี่ยงการโดนแดด แต่ก็ยังมีปัญหาของฝ้ามาคอยกวนใจ ซึ่งอาจจะต้องเข้าปรึกษากับทางแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษา เช่น

  • การทำทรีทเม้นท์ ที่ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้ว
  • การทายา ไม่ควรซื้อมาใช้เองอาจทำให้ผิวหน้าเกิดแสบ แดง หรือลอก
  • การทำเลเซอร์ หากการทายาไม่ได้ผลอาจต้องใช้เลเซอร์
  • การผลัดเซลล์ผิวหนัง การใช้สารที่มีความเป็นกรดหรือสารฟอกขาว-
  • ช่วยเร่งให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก

หากต้องการขอคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญ  เนื่องจากการรักษาด้วยตนเองนั้น อาจนำไปสู่อาการที่ร้ายแรงขึ้น ฝ้าฝังลึกขึ้น หรือเป็นๆ หายๆ ทางเรามีการรักษาฝ้าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการแพทย์หลากหลายรูปแบบและเรามีแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนังโดยเฉพาะ ที่มากด้วยประสบการณ์จาก

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์พิเศษเเผนกผิวหนัง ม.เเม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง

มีประสบการณ์มามากกว่า 15 ปีของ พญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ ตจแพทย์ รอให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับฝ้า  และพร้อมแก้ไขทุกปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังและเล็บ ด้วยความยินดี และสามารถติดต่อเราได้ทั้ง 2 ช่องทาง


Dsecret clinic คลินิกรักษาฝ้าอันดับ 1

นำโดย บริหารโดย คุณกิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทาง จบ ปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกา ที่ลงมือดูแลคนไข้เองทุกเคสด้วยระดับมืออาชีพ การันตีด้วยประสบการณ์การรักษามากกว่า 10,000 เคส พร้อมผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความประทับใจของคนไข้จริงจนต้องบอกต่อ

คุณหมอมือเบามากถึงมากที่สุด หลังฉีดเสร็จจะเห็นได้เลยว่าไม่มีเลือดออก ไม่มีบวม ไม่มีแดง และที่สำคัญไม่แสบผิว แต่ยังคงได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดบ่งบอกถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนการรักษาที่ทางคลินิกมอบให้กับคนไข้ทุกเคส การันตีได้ว่า หน้าใส ฝ้าหายแน่นอน

 

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

เป็นฝ้าใช้ครีมอะไรดี pantip
สูตรรักษาฝ้าเร่งด่วน
ยาสีฟันรักษาฝ้า
สูตรพอกหน้าแก้ฝ้า
เป็นฝ้าใช้อะไรล้างหน้าดี
หน้าเป็นฝ้าดำ
หน้าเป็นฝ้า ใช้อะไรดี
หน้าเป็นฝ้า หมองคล้ำ

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

อยากฝ้าหาย ทําไงดี
สูตรรักษาฝ้าเร่งด่วน
วิธีรักษาฝ้าให้หายขาด pantip
วิธีรักษาฝ้า แบบ ธรรมชาติ รีวิว
วิธีรักษาฝ้าแดด
วิธีรักษาฝ้าเลือด
วิธีรักษาฝ้าด้วยมะนาว
วิธีรักษาฝ้า กระ ให้หายขาดแบบธรรมชาติ

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

รักษาฝ้าแดด pantip
หน้าเป็นฝ้า
ฝ้าตรงโหนกแก้ม
ฝ้า Pantip
รักษาฝ้าแบบธรรมชาติ
วิธีรักษาฝ้าแดด
ฝ้ามีกี่ชนิด
หน้าบาง เป็นฝ้า

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

เป็นฝ้าใช้ครีมอะไรดี pantip
ฝ้าตรงโหนกแก้ม
ฝ้าเกิดจากฮอร์โมน
ฝ้า คือ
วิธีรักษาฝ้า
อาการเริ่มต้นของฝ้า
ยารักษาฝ้า
หน้าบาง เป็นฝ้า

 

สาเหตุ ที่ทำให้เกิด ฝ้า และวิธีการรักษา ต้องทำยังไง

0

1.โรคผิวหนัง  ฝ้า (Melasma) 

ฝ้า เป็นปัญหาผิวพรรณที่พบได้มากในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงเอเชียผิวคล้ำในช่วงวัยกลางคน “ฝ้า” หรือ “Melasma” เกิดจากการที่เซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนัง หรือเม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม แม้ฝ้าจะไม่ใช่โรคหรือภาวะที่มีอันตราย แต่ก็ก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตและทำให้ผู้หญิงหลายคนต่างหมดความมั่นใจได้ อาจมีลักษณะ

  1. โดยมักจะขึ้นเป็นวงเล็กๆสีน้ำตาลก่อน
  2. ก็จะค่อยๆขยายเป็นปื้น
  3. ฝังลึกลงไปในเซลล์ผิว
  4. เป็นปื้นสีเข้ม
  5. หรือเป็นกระจุกกระจายตัว

2. โรคฝ้า เกิดขึ้นจากสาเหตุ อะไร

สิ่งที่น่าสนใจคือ ฝ้าไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายและส่วนใหญ่พบในวัยกลางคน อายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งผู้หญิงมีโอกาสเป็นฝ้ามากกว่าผู้ชายถึง 9 เท่าปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดฝ้ามีมากมายหลายสาเหตุด้วยกัน ตัวอย่างเช่น

  1. รังสี UV ในแสงแดด
  2. การกินยาคุมกำเนิด
  3. การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์
  4. การเข้าสู่วัยทองและวัยหมดประจำเดือน
  5. การใช้เครื่องสำอางบางชนิดที่มีผลต่อการแพ้
  6. กระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินบนผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง
  7. รวมถึงกรรมพันธุ์ที่ทำให้ฝ้ากลับมาเป็นซ้ำได้บ่อยครั้ง
  8. ซึ่งคนผิวเข้มมีโอกาสเป็นฝ้าง่ายกว่าคนผิวขาวอีกด้วย

3. ทำความรู้จัก ฝ้า ว่ามีกี่ชนิด คุณเป็นฝ้าชนิดไหนกัน

ในทางการแพทย์ผิวหนัง สามารถแบ่ง “ฝ้า” ได้ 2 ประเภท คือ

3.1  ฝ้าแดด

  • รังสียูวีเอและยูวีบีจากแสงแดด
  • หลอดไฟ
  • แสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์
  • แสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟน

3.2  ฝ้าเลือด

  • ความผิดปกติของเลือดลม
  • ความผิดปกติของฮอร์โมน
  • เกิดเป็นลักษณะผิวแดงง่าย
  • เมื่อโดนความร้อนหรือแสงแดด

4.  ทำไมถึงเป็น ฝ้า คุณได้ดูแลผิวหน้าของคุณหรือไม่

“ฝ้า” ปัญหาสุดกลุ้มใจของหลายคน เพราะเมื่อเกิดขึ้นบนใบหน้าแล้ว ก็ยากที่จะรักษาให้หายขาด “ฝ้า” จึงเป็นเรื่องที่เซ็นซิทีฟมากๆ ในปัญหาผิวหน้าทั้งหมด ลักษณะการเกิดฝ้า ฝ้ามีด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่

  1. ฝ้าแบบตื้น เกิดได้ง่าย อยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก)
    • มีสีน้ำตาลขอบชัด
    • รักษาให้จางลงได้ด้วยการทาครีมกันแดด
    • ยาทาฝ้าอ่อน ๆ
  2. ฝ้าแบบลึก เกิดในระดับชั้นผิวหนังแท้อยู่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า
    • มีสีม่วง ๆ อมน้ำเงิน
    • ขอบเขตไม่ชัดเจน
    • รักษาได้ยากกว่าฝ้าแบบตื้น
    • ไม่ค่อยหายขาด
  3. ฝ้าแบบผสม เกิดทั้งในระดับชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้รวมกัน
    • โดยตรงกลางมักมีสีเข้มแสดงถึงฝ้าในชั้นหนังแท้
    • ส่วนขอบมักมีสีจางกว่าแสดงถึงฝ้าในหนังกำพร้า
    • ฝ้าชนิดนี้ยังเป็นฝ้าที่พบได้มากที่สุดอีกด้วย


5.  ฝ้า  มีวิธีการรักษา ให้หายได้ไหม

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษา “ฝ้า” ให้หายขาด แต่การวิจัยและพัฒนาก็ยังพอให้มีความหวังได้อยู่บ้าง อย่างที่ทราบว่าถ้าหลีกเลี่ยง “แสงแดด” โอกาสเกิดฝ้าก็จะลดลง แต่นอกจากหลีกเลี่ยงแสงแดด ฝ้าก็ยังสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการดูแล บำรุงอย่างต่อเนื่อง

5.1  การรักษา “ฝ้า” ด้วยทรีทเม้นท์

การใช้ทรีทเม้นท์รักษาฝ้า อาจจะใช้เวลามากกว่าการไปเลเซอร์ หรือวิธีการลอกผิว แต่เป็นวิธีที่ปลอดภัย แก้ตรงจุดและไม่เกิดผลข้างเคียง การเลือกทรีทเม้นท์ที่ดี ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าได้ผลจริงและไม่เกิดผลข้างเคียง

5.2  การรักษาฝ้าด้วยการทายา

การรักษาฝ้าด้วยการทายา จะได้ผลดีกับผู้ที่เป็นฝ้าตื้น แต่ต้องใช้เวลาตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล ยารักษาฝ้ามีหลายชนิด ได้แก่ กลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid) กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) กรดโคจิก (Kojic Acid) คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ซึ่งความเข้มข้นของสารในครีมทาฝ้าจะมีปริมาณแตกต่างกันออกไป แต่ ไม่ควรไปซื้อยามาใช้เองนะคะ เพราะอาจทำให้ผิวหน้าเกิดแสบ แดง หรือลอกเป็นขุย

5.3  การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์

การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างรวดเร็วกว่าการทา “ครีมทาฝ้า” ส่วนใหญ่จะใช้รักษาฝ้าเมื่อการใช้ยาทาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร แต่ประสิทธิภาพของการรักษายังขึ้นอยู่กับแต่ละคน ซึ่งปัจจุบันก็มีการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ที่หลากหลาย เพื่อช่วยปรับสภาพหรือรักษาความผิดปกติของสีผิว เช่น เลเซอร์ระบบคิวสวิตช์ หรือ Q-switched Laser หรือ YAG Laser ที่ยิงลงไปบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรง และทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่ให้ผลรวดเร็วและจัดการกับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้ เลเซอร์ก็ยังไม่ใช่ทางเลือกแรกของการรักษาฝ้าในทางการแพทย์ เพราะผลของการรักษาจะทำให้ฝ้าจางลงเพียงชั่วคราวเท่านั้นและฝ้าสามารถกลับมาใหม่ได้ตลอดเวลา หรืออาจไม่ได้ผลในบางรายด้วยซ้ำ

 


6.  การรักษาฝ้าด้วยการผลัดเซลล์ผิวหนัง

การผลัดเซลล์ผิวหนัง (Superficial Skin Peels) เป็นการใช้สารที่มีความเป็นกรดหรือสารฟอกขาว เช่น กรดไกลโคลิก หรือกรดซาลิซิลิก ช่วยเร่งให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก คล้ายๆ กับการใช้เลเซอร์ เพื่อช่วยให้สีผิวมีความสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ผลข้างเคียงของวิธีนี้คืออาจเสี่ยงกับการทำให้สีผิวเข้มมากขึ้น หน้าบาง หรือเกิดด่างขาว

6.1  การป้องกันการเกิด “ฝ้า”  เบื้องต้น ที่คุณสามารถทำได้

  1. หลีกเลี่ยง แสงแดด เมื่อไม่จำเป็น
  2. ควรใช้ร่มที่ป้องกันรังสียูวี สวมหมวก ใช้ผ้าคลุม
  3. โดยเฉพาะแดดช่วง 00-16.00 น.
  4. หลีกเลี่ยงยาที่เป็นต้นเหตุให้เกิดฝ้า
  5. ยาเพิ่มฮอร์โมนอื่นๆ เช่น ยาคุมกำเนิด อาจจะต้องเปลี่ยนการคุมกำเนิดโดยต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
  6. ใช้ “ครีมกันแดด” ที่มี SPF30+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันยูวีเอ
  7. มีค่าป้องกัน PA2+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันยูวีเอ
  8. โดยควรทาครีมกันแดดก่อนที่จะออกแดด 30 นาที
  9. ใช้ครีมทาที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ หรือครีมไวท์เทนนิ่งอื่นๆ เพื่อป้องกันผิวหน้ามีสีเข้มขึ้น
  10. พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
  11. หลีกเลี่ยงความเครียด
  12. ทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
  13. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

 


Dsecret clinic คลินิกรักษาฝ้าอันดับ 1

นำโดย บริหารโดย คุณกิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ และ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทาง จบ ปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกา ที่ลงมือดูแลคนไข้เองทุกเคสด้วยระดับมืออาชีพ การันตีด้วยประสบการณ์การรักษามากกว่า 10,000 เคส พร้อมผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความประทับใจของคนไข้จริงจนต้องบอกต่อ

  • โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 14 ปี
  • เน้นการรักษาให้ฝ้าหายจริง
  • รอยจางเร็ว
  • เห็นผลจริง
  • การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์
  • การฉีดสลายฝ้าเฉพาะจุด

คุณณหมอมือเบามากถึงมากที่สุด หลังฉีดเสร็จจะเห็นได้เลยว่าไม่มีเลือดออก ไม่มีบวม ไม่มีแดง และที่สำคัญไม่แสบผิว แต่ยังคงได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดบ่งบอกถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอนการรักษาที่ทางคลินิกมอบให้กับคนไข้ทุกเคส การันตีได้ว่า หน้าใส ฝ้าหายแน่นอน

ประสบการณ์ มากกว่า 15 ปีของ พญ. มริญญา ผ่องผุดพันธ์

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก ( Education )

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa

 

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

เป็นฝ้าใช้ครีมอะไรดี pantip
สูตรรักษาฝ้าเร่งด่วน
ยาสีฟันรักษาฝ้า
สูตรพอกหน้าแก้ฝ้า
เป็นฝ้าใช้อะไรล้างหน้าดี
หน้าเป็นฝ้าดำ
หน้าเป็นฝ้า ใช้อะไรดี
หน้าเป็นฝ้า หมองคล้ำ

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

อยากฝ้าหาย ทําไงดี
สูตรรักษาฝ้าเร่งด่วน
วิธีรักษาฝ้าให้หายขาด pantip
วิธีรักษาฝ้า แบบ ธรรมชาติ รีวิว
วิธีรักษาฝ้าแดด
วิธีรักษาฝ้าเลือด
วิธีรักษาฝ้าด้วยมะนาว
วิธีรักษาฝ้า กระ ให้หายขาดแบบธรรมชาติ

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

รักษาฝ้าแดด pantip
หน้าเป็นฝ้า
ฝ้าตรงโหนกแก้ม
ฝ้า Pantip
รักษาฝ้าแบบธรรมชาติ
วิธีรักษาฝ้าแดด
ฝ้ามีกี่ชนิด
หน้าบาง เป็นฝ้า

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง

เป็นฝ้าใช้ครีมอะไรดี pantip
ฝ้าตรงโหนกแก้ม
ฝ้าเกิดจากฮอร์โมน
ฝ้า คือ
วิธีรักษาฝ้า
อาการเริ่มต้นของฝ้า
ยารักษาฝ้า
หน้าบาง เป็นฝ้า