แนะนำ ศูนย์รักษาโรคผิวหนัง ให้แก่คน ทุ่งครุ
Dsecret Clinic คือ ผู้ให้บริการรักษาโรคผิวหนังทุกประเภทด้วยเครื่องมือที่มีความทันสมัย การันตีได้จากผู้ที่ไปรักษาจริง เมื่อมารักษาอย่างต่อเนื่องแล้วจะหายขาดได้ดี พร้อมอาการของบาดแผลที่จะหายอย่างรวดเร็ว เพราะทางคลินิกมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสูตรพิเศษจากต่างประเทศ ที่จะเป็นการส่งตรงมาเพื่อดูแลและรักษาแผลของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม ภายในคลินิกมีการฆ่าเชื้อเครื่องมือกับอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่เสมอ พร้อมการนำเครื่องมือรุ่นใหม่ที่ผ่านการตรวจสอบมาทำการรักษาอย่างมั่นใจ จึงทำให้คุณไว้วางใจได้ว่ารักษาแผลให้หายได้ปลอดภัย ไม่เกิดปัญหาใด ๆ และไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นอีกด้วย
Dsecret clinic คลินิกรักษาโรคผิวหนัง
Dsecret clinic มีความเข้าใจต่อผู้ที่เกิดปัญหาผิวหนังทุกรูปแบบเป็นอย่างดี เพราะมีประสบการณ์ด้านการรักษาและรู้ถึงสาเหตุของโรคอย่างครบถ้วน ทั้งยังเข้าใจผู้ที่เกิดปัญหาผิวหนังและทำให้รู้สึกกังวลใจ จนอาจทำให้เกิดความตึงเครียด พร้อมให้การวินิจฉัยที่ตรงจุดและรักษาอย่างรวดเร็ว ทำให้แผลหายโดยไม่ทิ้งรอยใด ๆ ไว้ มีการรักษาแผลเป็นและแผลต่าง ๆ ของผิวหนังที่ปลอดภัย เลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่ดีและมีคุณภาพเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณมารักษาที่ Dsecret clinic คุณจะได้รับบริการที่ดีเยี่ยม ดังนี้
- ได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคผิวหนังมาโดยเฉพาะ
- พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลทุกเรื่องที่เกี่ยวกับโรคผิวหนัง เพราะเรามีคุณหมอที่เก่งโรคผิวหนัง
- ใส่ใจต่อปัญหา มีความละเอียดอ่อนต่อการรักษาและใส่ใจในทุกขั้นตอน พร้อมเข้าถึงความรู้สึกของผู้ที่มีปัญหาโรคผิวหนัง
- ให้บริการที่ดีเยี่ยมจากพนักงานที่ถูกอบรมมาเป็นอย่างดี
- มีทีมงานคอยดูแลและให้บริการอย่างเข้าใจ
- ใส่ใจต่อความต้องการของผู้ที่มารักษาทุกคน
- เน้นการรักษาอย่างตรงจุด ไม่ดึงเวลา รักษาทุกปัญหาไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กแค่ไหนก็ตาม
- ผู้ที่มารักษาทุกคนคือเรื่องสำคัญของ Dsecret clinic
Dsecret clinic รับรักษา โรคผิวหนัง ดังต่อไปนี้
|
สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอคำปรึกษา ว่าคุณกำลังเจอปัญหาโรคผิวหนังแบบไหนอยู่ และขอขอบคุณที่ไว้ใจให้เราได้คอยดูแลคุณอย่างใกล้ชิด และเราจะตั้งใจในการบริการงานของเราให้ดีที่สุดและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณมาหาเราแล้วได้แต่รอยยิ้มและความสุขกลับไป
ประสบการณ์ มากกว่า 15 ปีของ พญ. มริญญา ผ่องผุดพันธ์
ประสบการณ์การทำงาน
- อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
- อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
- แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
- แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ
ผ่านการศึกษาจาก ( Education )
- Hair Restoration Training, Korea (2015)
- Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
- Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
- Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
- Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
- Nail surgery training
- Laser expert training
- Hair expert training
- Boton university usa
โรคผิวหนัง คืออะไร ทำไมต้องรู้จัก
โรคผิวหนัง คือ โรคที่เกิดขึ้นกับผิวทั่วบริเวณของร่างกาย โดยจะเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพอากาศ, พันธุกรรม หรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว การต้องเผชิญกับความร้อนของอากาศ มลพิษและมลภาวะที่มีมากขึ้น จึงทำให้เกิดเป็นการติดเชื้อที่แสดงออกเป็นทั้งตุ่ม, ผื่น, วงด่างขาว, ก้อนหรือปื้นผื่น ที่จะแสดงออกอย่างเด่นชัด แต่ในขณะเดียวกันโรคผิวหนังที่ไม่แสดงออกก็มีเช่นกัน ดังนั้นจึงควรดูแลรักษาสุขภาพและคอยสังเกตความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอ
1.สาเหตุของการเกิดโรคผิวหนัง ที่คุณต้องเป็นกังวล
สาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังเป็นได้จากหลายปัจจัย โดยจะดูได้จากการบ่งบอกถึงอาการที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะเป็นโรคผิวหนังในประเภทใดบ้าง ดังนั้นจึงขอแนะนำสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังที่คนไทยมักพบได้บ่อยครั้ง
สาเหตุที่เกิดจากโรคผิวหนังดังต่อไปนี้
- มีความผิดปกติด้านฮอร์โมน
- การใช้เครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐานหรือใช้มากเกินไป รวมไปถึงการใช้สกินแคร์ที่มีความอันตราย จนเกิดการอุดตันและการติดเชื้อบนรูขุมขน
- เกิดจากปัญหาด้านอุบัติเหตุหรือแผลผ่าตัด
- โรคผิวหนังที่มาจากพันธุกรรม
- เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
- เกิดจากอาการภูมิแพ้หรืออาการแพ้ปัจจัยต่าง ๆ รอบตัว
- โรคผิวหนังที่เกิดจากหลายสาเหตุร่วมกันและเป็นความผิดปกติของผิวหนังโดยตรง
- เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคอันตรายต่าง ๆ
การเกิดของโรคผิวหนังอาจเกิดขึ้นได้แทบไม่รู้ตัว ซึ่งโรคผิวหนังจะมีแตกออกเป็นหลายชนิด ทั้งยังมีแบบร้ายแรงกับไม่ร้ายแรง ผู้ที่เป็นจึงมักจะไม่รู้ว่าเกิดจากสิ่งใดบ้าง เพราะอาจจะเกิดได้จากทั้งสภาพแวดล้อม, พันธุกรรม หรือการติดเชื้อต่าง ๆ ดังนั้นการดูแลตนเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เมื่อใดที่พบว่ามีปัญหาผิวผิดปกติหรือเกิดอาการที่ไม่เหมือนเดิม ควรรีบปรึกษาแพทย์ใกล้บ้านทันที
2.โรคผิวหนังทั่วไปที่พบได้บ่อย มีอะไรบ้าง
โรคผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้หลายชนิดและมีการแยกย่อยออกไปเป็นจำนวนมาก โดยจะมีการแบ่งออกเป็นทั้งแบบชนิดร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ดังนั้นถ้าต้องการรู้ว่าโรคผิวหนังที่เป็นอยู่เกิดขึ้นจากสาเหตุใด ต้องมีการพบแพทย์เพื่อชี้แจงในเชิงลึก เพราะสาเหตุที่แตกต่างกันนั้นจะมีการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นจากปัจจัยใดเป็นสำคัญ จึงทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะทำให้เกิดโรคได้ดีขึ้น
โรคผิวหนังที่พบได้บ่อยครั้งในประเทศไทย มีดังต่อไปนี้
2.1 สิว (Acne)
สิวเกิดขึ้นได้มากที่สุดและเกิดได้กับผู้คนทั่วโลก เป็นปัญหาผิวที่จะต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยเกิดขึ้นได้ในวัยหนุ่มสาวและวัยทำงาน มักจะเกิดกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง ลักษณะของสิววัยรุ่นจะเป็นแล้วหาย แต่จะกลับมาเป็นใหม่ซ้ำที่เดิมอีกครั้ง ทั้งยังมีสิวแบบผื่นที่เป็นตุ่มขนาดเล็กที่กระจายไปทั่วบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก หลัง แขน และขาอีกด้วย
2.2 ฝ้า (Melasma)
ปัญหาเรื่องฝ้าเป็นโรคผิวที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทั้งยังเกิดขึ้นกับผิวของผู้หญิงในโซนเอเชียได้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวคล้ำในช่วงวัยกลางคนจะพบกับปัญหาฝ้าได้มาก ซึ่งฝ้านั้นเกิดจากเซลล์เม็ดสีผิวใต้ชั้นผิวหนังทำงานผิดปกติแล้วปรากฏเป็นจุดสีน้ำตาล หรือปื้นสีน้ำตาลเข้มบริเวณโหนกแก้ม นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นจากเม็ดสีเมลานินที่มีการทำงานผิดปกติ สร้างความรู้สึกกังวลใจและทำให้ผู้หญิงหลายคนไม่มั่นใจต่อการใช้ชีวิต โดยจะเริ่มต้นจากการเป็นวงเล็กสีน้ำตาล แล้วขยายตัวออกเป็นปื้นสีน้ำตาลเข้มหรือสีน้ำตาลไหม้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานจะลงลึกไปถึงชั้นเซลล์ผิวที่จะทำให้การรักษายากมากขึ้น
2.3 กระ (Freckles)
กระเป็นหนึ่งในปัญหาโรคผิวหนัง ที่เกิดจากการผลิตเม็ดสีเมลานินบนชั้นผิวหนังกำพร้ามีมากผิดปกติ ปรากฏออกเป็นจุดเล็กกลมสีน้ำตาลอ่อน, สีน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงสีดำ และจะกระจายไปทั่วพื้นผิวบริเวณใบหน้า, ลำคอ, แขน และขา โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับคนในทุกเพศทุกวัย
2.4 ติ่งเนื้อ (Skin Tags/Acrochordon)
ติ่งเนื้อจะมีลักษณะคล้ายกับขี้แมลงวันขนาดเล็กที่ปูดขึ้นมา แต่จะแตกต่างตรงที่เนื้อจะเกินออกมาเป็นจำนวนมาก โดยจะออกสีเหลือง, สีเนื้อ, สีน้ำชา, สีน้ำตาล ไปจนถึงสีดำ เมื่อเป็นแล้วจะไม่ส่งผลกระทบหรืออันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด เพียงแค่ให้ความรู้สึกที่รำคาญใจได้ไม่น้อย เพราะเมื่อไปสัมผัสโดนแล้วจะทำให้เจ็บ แสบ และคันได้ โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
2.5 รอยแผลเป็น
รอยแผลเป็นจะเกิดขึ้นจากกระบวนการทางร่างกายที่ผิดปกติ โดยส่วนมากแล้วเมื่อร่างกายเป็นแผลจะเกิดการปิดแผลเพื่อให้สนิทและกลายเป็นเนื้อดังเดิม แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงด้านพันธุกรรม จะทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ส่วนของการเกิดแผลที่เสี่ยงแผลเป็นมากที่สุด คือ ช่วงบริเวณใบหน้า, ผิวหน้าอก, ผิวหลัง, บริเวณติ่งหู และรอยแผลเป็นบริเวณขา กับไหล่ รวมไปถึงบริเวณข้อต่อที่จะต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด อาจจะทำให้แผลขยายวงกว้างขึ้น
2.6 โรคผมร่วง ผมบาง
ปัญหาผมร่วงที่มีมากกว่าปกติ คือ ร่วงติดมือหรือติดหวีออกมาเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการสระผมหรือการอาบน้ำที่ผมจะร่วงออกมาเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนทั่วไปจะมีผมร่วงอยู่ที่ประมาณ 50-100 เส้น เพราะเป็นกระบวนการงอกผมใหม่ แต่ในปริมาณนี้การหลุดร่วงของผมจะไม่มากจนเกินไป แต่ถ้าร่วงเป็นกระจุกหรือเพียงแค่ลูบผมแล้วร่วงติดมือออกมาเป็นจำนวนมาก นั่นหมายความว่าคุณกำลังเผชิญกับปัญหาผมร่วงและผมบาง
2.7 โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis)
เซ็บเดิร์มเกิดจากผิวหนังใต้ต่อมไขมันอักเสบ พร้อมกลายเป็นโรคอักเสบเรื้อรังที่เกิดขึ้นได้กับทุกบริเวณของผิว เป็นหนึ่งในโรคผิวหนังที่คนไทยเริ่มเป็นกันมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งถือว่าเป็นโรคที่รักษาแล้วจะไม่ให้ขาดดังนั้นจึงต้องดูแลตัวเองให้ดี มีการรักษาอย่างถูกต้องไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้
2.8 โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
สะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการแบ่งเซลล์ของผิวที่มีมากและเร็วเกินไป ทั้งยังทำให้กลายเป็นการอักเสบบนผิว เริ่มต้นจากการเป็นเพียงผื่นทั่วไปแล้วกลายเป็นผื่นอักเสบจนผิวหนาขึ้น กลายเป็นขุย มีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรีบนร่างกาย แม้กระทั่งผิวใต้เล็บก็จะหนาขึ้น พร้อมมีอาการปวดตามข้อร่วมด้วย สำหรับผู้ที่เป็นน้อยจะเป็นและหายได้เอง โดยจะพบได้มากในช่วงวัยรุ่นกับวัยกลางคน แต่ถ้ามีการกระจายไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพิ่มมากขึ้น ต้องรีบพบแพทย์ผิวหนังทันที
2.9 เชื้อราที่เล็บ (Dermatophytosis)
การติดเชื้อราที่เล็บถือเป็นหนึ่งในโรคผิวหนังที่ต้องได้รับการดูแล เพราะอาจลุกลามไปสู่ผิวหนังส่วนอื่นได้ง่าย การติดเชื้อราในประเทศไทยจะเป็นการติดแบบสายราหรือราในรูปแบบของยีสต์ โดยจะมีขนาดเล็ก ต้องมีการตรวจสอบจากทางห้องปฏิบัติการด้วยกล้องจุลทรรศน์และการเพาะเชื้อราเท่านั้น จึงจะรู้ว่าผิวของคุณติดราหรือไม่
2.10 โรคเล็บขบ (Ingrown Nail)
ปัญหาเรื่องโรคเล็บขบเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะทำให้เล็บผิดรูปและงอกขึ้นมาทิ่มบริเวณผิวหนัง จนทำให้กลายเป็นแผลและเนื้อใต้ผิวหนังจะกลายเป็นโพรง ทำให้เกิดความเจ็บปวด ส่งผลให้เกิดอาการบวมแดง เป็นหนอง และอาจจะติดเชื้อได้ในที่สุด
วิธีการดูแล และปกป้องผิวหนังของคุณให้ปลอดภัย
ปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนังในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป เพราะมีการแนะนำทั้งเรื่องวิธีการดูแลและการปกป้องผิว เพื่อให้เกิดความปลอดภัย พร้อมไปด้วยการรักษาที่มีคุณภาพ ดังนั้นถ้าคุณต้องการวิธีปกป้องผิวให้มีความปลอดภัยและไม่เกิดปัญหาใด ๆ สามารถทำตามวิธีที่จะแนะนำ คือ
วิธีการดูแลผิวหนังเบื้องต้น ไม่ให้เกิดโรคผิวหนัง ดังต่อไปนี้
- การพักผ่อนมีความสำคัญมาก ดังนั้นจึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูสภาพอย่างเต็มที่
- การรักษาความสะอาดผิวจะต้องทำอย่างประจำและสม่ำเสมอ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผิวได้มาตรฐานและมีคุณภาพเท่านั้น
- ถ้าต้องทำงานกลางแจ้งหรือพบกับแสงแดดจัด ควรสวมใส่เครื่องแต่งกายเพื่อหลีกเลี่ยงผิวเผชิญแสงแดดโดยตรง มีการทาครีมกันแดดอยู่เสมอ
- ไม่ควรอยู่ในบริเวณที่มีมลภาวะหรือมลพิษสูงต่อเนื่องยาวนานเกินไป และหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นและควันละอองสูง
- ดูแลตนเองเสมอ ลดความเครียด มีการพักเพื่อผ่อนคลาย ดูแลสภาพจิตใจให้ดี เพื่อทำให้ ฮอร์โมนภายในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล
- อาหารมีความสำคัญต่อผิว เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ไร้ไขมัน
- มีการตรวจสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวอยู่เสมอ ถ้ามีเหตุผิดปกติใด ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
โรคผิวหนัง ควรรักษาให้ถูกวิธี กับเเพทย์เฉพาะทาง ไม่เช่นนั้น อาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาภายหลัง ไม่ว่าจะเป็น
- ปัญหาผิวอาจเกิดอาการเรื้อรังจนทำให้รักษายาก
- การรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เสียเงินเปล่าและรักษาไม่หาย
- เสี่ยงต่อการลุกลามไปสู่อาการอักเสบ เป็นหนอง หรือปัญหาที่ใหญ่ขึ้น เพราะรักษาผิดวิธี
- เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานจะยิ่งทำให้ปัญหาผิวหนังลุกลามมากกว่าเดิม
- การเลือกใช้บริการสถานพยาบาลไม่ได้มาตรฐานจะเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิต
รีวิว จากผู้ที่เข้ารับการรักษา โรคผิวหนัง กับคลีนิก Dsecret clinic
รีวิวจากผู้ที่มารักษาตรงกับดี Dsecret clinic ต่างเห็นพ้องกันว่าที่นี่ให้การรักษาอย่างตรงจุด ไม่มีการดึงเวลา ไม่เลี้ยงไข้ และให้การรักษาที่ดีเยี่ยมเสมอ จนสามารถสร้างความพึงพอใจสูง ให้บริการรักษาจากแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์และเป็นแพทย์อันดับ 1 ด้านการรักษาโรคผิวหนัง โดยคุณหมอที่เก่งโรคผิวหนัง จากศูนย์แพทย์เฉพาะทางที่เข้าใจต่อทุกปัญหาของลูกค้าทุกคน จึงทำให้ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นถูกแก้ไขได้หายขาดหรือบรรเทาลงได้อย่างรวดเร็ว
ประสบการณ์ มากกว่า 15 ปีของ พญ. มริญญา ผ่องผุดพันธ์
ประสบการณ์การทำงาน
- อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
- อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพบาบาลรามาธิบดี
- แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
- แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ
ผ่านการศึกษาจาก ( Education )
- Hair Restoration Training, Korea (2015)
- Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
- Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
- Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
- Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
- Nail surgery training
- Laser expert training
- Hair expert training
- Boton university usa
9. สถานที่ตั้ง ของคลีนิก Dsecret clinic
แผนที่ มา Dsecret Clinic คลิกที่นี่
ถ้าหากท่านไม่สะดวกเดินทางมาที่ เดอซีเคร็ทท่านสามารถพูดคุยกับคุณหมอโรคผิวหนังได้ที่ SEVEN PLUS CLINIC
589 ปากถนนพระรามเก้า ซอย 51 สวนหลวง Bangkok 10250
tel://0973649934
Line ID : @sevenplusclinic
เปิดบริการวันจันทร์ – วันอาทิตย์ 10:00 น ถึง 19:00 น ยกเว้นวันอังคาร
แขวงบางมด แขวงทุ่งครุ
ถนนประชาอุทิศ ถนนครุใน ถนนพุทธบูชา
วัดทุ่งครุ วัดหลวงพ่อโอภาสี
ลานไม้ ตลาดสุขรุ่งเรือง มาร์เก็ต
BTS วุฒากาศ BTS ช่องนนทรี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โรงเรียนนาหลวง
เรือนทรัพย์คอนโด มัณฑนา ประชาอุทิศ 72
สำนักงานเขตทุ่งครุ กรมสามัญศึกษา |